วอชิงตัน 23 มิ.ย. – ทั่วโลกต่างจับตาการตอบโต้ของอิหร่านหลังจากที่สหรัฐเข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดต่ออิหร่าน นับตั้งแต่การปฏิวัติในปี 1979 โดยการโจมตีได้พุ่งเป้าไปที่ โรงงานนิวเคลียร์สำคัญของอิหร่าน 3 แห่ง ได้แก่ ฟอร์โดว์ (Fordo), นาทานซ์ (Natanz) และอิสฟาฮาน (Isfahan)
อิหร่านประกาศจะปกป้องตนเอง หนึ่งวันหลังจากที่สหรัฐทิ้งระเบิดทำลายบังเกอร์ขนาดน้ำหนัก 30,000 ปอนด์ ลงบนภูเขาเหนือ แหล่งนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ของอิหร่าน ในขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านสงครามได้ปรากฏตัวขึ้นในเมืองต่างๆ ของสหรัฐ ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม “ทรูธโซเชียล” (Truth Social) ในวันอาทิตย์ หยิบยกแนวคิดเรื่อง การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในอิหร่านขึ้นมา โดยเขาเขียนว่า “การใช้คำว่า ‘การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง’ อาจเป็นเรื่องไม่ถูกต้องทางการเมือง แต่ถ้าหากระบอบการปกครองอิหร่านชุดปัจจุบันไม่สามารถ ทำให้ประเทศอิหร่านกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้ (MAKE IRAN GREAT AGAIN) แล้วทำไมถึงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง
ทางด้านอิหร่านและอิสราเอลยังคงตอบโต้กันไป-มาด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง โดยโฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวว่าเครื่องบินรบของอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายทางทหารทางตะวันตกของอิหร่าน ก่อนหน้านี้ อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธใส่กรุงเทลอาวีฟ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและอาคารหลายพังเสียหาย
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐเตือนถึง “สภาพแวดล้อมที่มีภัยคุกคามสูงขึ้น” ในสหรัฐ โดยอ้างถึงความเป็นไปได้ของการ โจมตีทางไซเบอร์ หรือ การใช้ความรุนแรงที่มีเป้าหมาย เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในเมืองใหญ่ๆ ของสหรัฐได้เพิ่มการลาดตระเวน โดยมุ่งเน้นไปที่สถานที่ทางศาสนา วัฒนธรรม และสถานทูตต่างๆ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกประกาศเตือนภัยความมั่นคงสำหรับพลเมืองอเมริกันทุกคนในต่างประเทศ โดยเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการชุมนุมประท้วงต่อต้านชาวอเมริกัน และการหยุดชะงักของการเดินทางเนื่องจากการปิดน่านฟ้าทั่วตะวันออกกลาง พร้อมเรียกร้องให้ “เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ”.-813.-สำนักข่าวไทย