เตหะราน 19 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านยังยิงขีปนาวุธโจมตีตอบโต้กันต่อเนื่องเป็นคืนที่ 6 ในคืนวันพุธ ขณะที่ผู้นำสหรัฐกำลังคิดหนักว่า จะเพิ่มการมีส่วนร่วมของสหรัฐในปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลต่ออิหร่านหรือไม่
สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังนิวเคลียร์ของสหประชาชาติแถลงว่า การโจมตีอิหร่านของอิสราเอลเมื่อวานนี้ ได้ทำลายอาคาร 2 หลังที่ผลิตส่วนประกอบของเครื่องหมุนเหวี่ยง (Centrifuge) สำหรับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านในเมืองคาราจ ใกล้กรุงเตหะราน ขณะที่เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศอิสราเอลกว่า 50 ลำ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกรุงเตหะรานหลายระลอกช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งมีโรงงานผลิตอาวุธหลายแห่งถูกถล่มด้วย โดยกองทัพอิสราเอลแจ้งให้ชาวอิหร่านอพยพออกจากหลายพื้นที่ของเมืองหลวงอิหร่านเพื่อความปลอดภัย
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ออกแถลงการณ์ ระบุว่า อิสราเอลปฏิบัติการทางทหารเพื่อจัดการกับภัยคุกคาม 2 อย่างที่มีต่อรัฐอิสราเอล นั่นคือ ภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ และภัยคุกจากขีปนาวุธ พร้อมขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มิตรผู้ยิ่งใหญ่ของอิสราเอล ที่ยืนหยัดอยู่ข้างเสมอมา

ด้านกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน แถลงว่า ได้ยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ฟัตตาห์-1 โจมตีกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอล โดยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงกว่า 5 เท่า และสามารถเคลื่อนที่ได้กลางอากาศ ทำให้ติดตามและยิงสกัดได้ยาก ขณะที่ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวปราศรัยที่มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ในประเทศ เตือนนายทรัมป์ว่า จะต้องเผชิญกับความเสียหายใหญ่หลวง หากสหรัฐตัดสินใจเข้าร่วมกับอิสราเอลในปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายที่ตั้งนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่าน หลังจากนายทรัมป์ยอมรับว่า อยู่ระหว่างตัดสินใจว่า จะเพิ่มการเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านหรือไม่ แต่ยอมรับว่าอิหร่านสร้างปัญหาหลายอย่าง
อิสราเอลเปิดฉากทำสงครามทางอากาศต่ออิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ อิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธกว่า 400 ลูกถล่มอิสราเอล ในจำนวนนี้มีประมาณ 40 ลูกที่สามารถพุ่งทะลุผ่านระบบป้องกันภัยทางอากาศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 24 คน ซึ่งเป็นพลเรือนทั้งหมด ตามการเปิดเผยของทางการอิสราเอล ส่วนเจ้าหน้าที่ของอิหร่าน รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตในอิหร่านอยู่ที่อย่างน้อย 585 ราย บาดเจ็บอีกมากกว่า 1,300 คน ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่าร้อยละ 90 เป็นพลเรือน ที่ตั้งทางทหาร สถานที่สำคัญของหน่วยงานรัฐบาล และอาคารบ้านเรือนอีกจำนวนมากได้รับความเสียหาย.-813.-สำนักข่าวไทย