11 มิ.ย. – สหรัฐกับจีนเพิ่งเจรจาการค้ารอบล่าสุด สุ้มเสียงของทั้งสองฝ่ายออกมาดีมาก แต่ยังต้องรอการอนุมัติจากผู้นำทั้งสองฝ่ายก่อน
ทั่วโลกยังต้องหายใจไม่ทั่วท้องว่าจีนกับสหรัฐ จะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ หากเกิดขึ้นจริงจะทำให้วิกฤติคลี่คลายลงไป ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองโลก สิ่งที่ต้องจับตาคือ ไพ่สำคัญที่จีนถืออยู่ก็คือแร่ธาตุหายาก ที่จีนเป็นเจ้าตลาดรายใหญ่ที่สุด
จากตลาดหุ้นบนถนนวอลล์สตรีท ไปจนถึงตลาดสดบนเทือกเขาแอนดีส ทุกที่ต่างจะได้รับผลของการเจรจาระหว่างสองมหาอำนาจ ที่อาจเป็นการสงบศึกใหญ่ คณะเจรจาของสหรัฐและจีนพบกันเป็นเวลา 2 วัน ที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ สรุปกันแล้วว่าได้ตกลงในหลักการเพื่อลดความตึงเครียดทางการค้า แล้วจะนำไปให้ผู้นำของแต่ละฝ่ายให้ไฟเขียว
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง จีนเป็นเป้าใหญ่ของมาตรการภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เริ่มจาก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ขยับขึ้น 4 รอบ ไปสูงสุดที่ 145 เปอร์เซ็นต์ แล้วจึงเจรจากันครั้งแรกเมื่อกลางเดือนที่แล้ว ลดลงเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ โดยยังให้ชะลอบังคับใช้อยู่ จนเมื่อนายทรัมป์ได้หารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จึงได้เปิดการเจรจารอบนี้ ก่อนเริ่มประชุมดูจะตึงเครียด ต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าผิดคำพูด
อาวุธหนักอย่างหนึ่งของจีนในสงครามการค้าครั้งนี้ที่ทำให้อาจถึงขั้นน็อกคู่ต่อสู้ได้ เพราะจีนเป็นผู้ครองตำแหน่งส่งออกอันดับ 1 วัตถุดิบสำคัญที่จำเป็นสำหรับผลิดสินค้าไฮเทค ตั้งแต่โทรศัพท์เคลื่อนที่ ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนสหรัฐมีไพ่ใหญ่ที่สุดในมือคือ สินค้าเทคโนโลยี โดยเฉพาะชิปสำหรับเอไอ ที่ได้จำกัดการส่งออกไปจีนมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ยกเหตุผลด้านความมั่นคง แต่ล่าสุดนายทรัมป์ได้ส่งสัญญาณให้ผ่อนปรนเรื่องนี้แล้ว แลกเปลี่ยนกับการนำเข้าแร่ธาตุหายากเพิ่มจากจีน
ถึงอย่างไรยังต้องลุ้นกันหนักว่าทั้งสองฝ่ายจะยอมถอยให้กับอีกฝ่ายในสิ่งที่เป็นเครืองมือทางยุทธศาสตร์เรื่องนี้ยังต้องรอการตัดสินใจที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และกรุงปักกิ่ง หากตกลงกันได้ทั้งสองฝ่ายน่าจะยิ้มออก จีนซึ่งภาวะเศรษฐกิจยังซึมยาวตั้งแต่ยุคโควิด แรงกดดันเงินฝืดบีบคั้น การส่งออกไม่ตามเป้า ส่วนสหรัฐ ย่อมกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดแรงกดดันเงินเฟ้อ ผ่อนปรนนโยบายการคลังได้
สำหรับของทั้งโลกย่อมได้อานิสงส์ตามมาคือ การค้าการขายเพิ่มขึ้น ราคาข้าวของย่อมลดลง ห่วงโซ่อุปทานมีเสถียรภาพขึ้น และฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน ในเวลาที่ธนาคาโลกเพิ่งออกรายงานพยากรณ์ว่าภาษีทรัมป์ กำลังจะทำให้ทศวรรษนี้ เป็นทศวรรษที่การเติบโตทางเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ประเทศต่างๆ เกือบ 2 ใน 3 ถูกหั่นการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ลง รวมถึงไทยที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตลดลงเป็น 1.8%
การเผชิญหน้าเพื่อแข่งขันทางยุทธศาสตร์ระหว่างมหาอำนาจอันดับ 1 และอันดับ 2 เพื่อความเป็นใหญ่ยังยากที่จะหมดไป แต่อย่างน้อยในเวลาที่ทุกอย่างบีบรัด ทั้งคู่ได้มีที่ทางให้ได้ยืนร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย