สหรัฐ 10 มิ.ย. – ขณะนี้สหรัฐกำลังปั่นป่วนจากนโยบายเด็ดขาดด้านผู้อพยพของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบหลายประเทศ
สามีภรรยาชาวนครย่างกุ้ง กำลังกลัดกลุ้มอย่างหนักกับชีวิต ภาพอนาคตที่ทั้งสองวาดหวังที่สร้างร่วมกันกำลังเลือนหายไป สถานการณ์ของพวกเขาผิดกันราวฟ้ากับเหวกับเมื่อปีที่แล้ว ที่ทั้งสองได้รับแจ้งว่าถูกลอตเตอรี่วีซ่าของสหรัฐ หรือโครงการวีซ่าผู้อพยพหลากหลายประเภท ของกระทรวงต่างประเทศ สองสามีภรรยาฝันว่าจะหลบหนีปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจในบ้านเกิด แล้วไปสร้างครอบครัวและมีลูกด้วยกันในแดนเสรีในปีหน้า ตามที่โชคได้อำนวย จนถูกลอตเตอรี่วีซ่า บุญมีแต่ถูกบัง
เมื่อวานนี้ความฝันทลายลงไป ประกาศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลบังคับใช้สั่งห้ามพลเมือง 12 ประเทศเข้าสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเมียนมาด้วย เพราะเหตุผลของคำสั่งห้ามคือ การป้องกันผู้ก่อการร้ายต่างชาติ ร่วมกับประเทศอย่างอัฟกานิสถาน โซมาเลีย และเยเมน เพราะพวกเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เป็นเพียงผู้เสาะหาที่พักพิงหลบหนีจากวิกฤติการเมืองในบ้านเกิดเท่านั้น

คำสั่งห้ามพลเมืองจาก 12 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐ ยังพ่วงด้วยการจำกัดการเดินทางบางส่วนจากอีก 7 ประเทศด้วย โดยใช้เกณฑ์ที่ว่าเป็นประเทศที่มีระบบตรวจสอบวีซาที่ไม่รัดกุม มีอัตราการพำนักเกินอายุของวีซ่าสูง และมีกลุ่มการก่อการร้าย
คำสั่งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจุดยืนเด็ดขาดด้านผู้อพยพของนายทรัมป์ ตั้งแต่ครองทำเนียบขาววาระแรก บนหลักคิด “อเมริกาต้องมาก่อน” จึงให้ความสำคัญกับความมั่นคงและผลประโยชน์เบื้องหน้า ในวาระที่ 2 นี้ รัฐบาลทรัมป์ 2.0 ได้เร่งรัดงานด้านนี้อย่างเข้มข้น ตั้งแต่การปิดกั้นพรมแดน ยกเลิกโครงการผู้อพยพ ตรวจสอบ จับกุม และเนรเทศ จนเป็นต้นเหตุของการจลาจลในนครลอสแอนเจลีส ยืดเยื้อหลายวันตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ ด้วยเหตุที่เจ้าหน้าที่บุกจับกุมผู้ต้องสงสัยเข้าเมืองผิดกฎหมายนับร้อย ลุกลามเป็นการประท้วงและปะทะ
นายทรัมป์ สั่งนำทหาร 2 พันนาย และหน่วยนาวิกโยธิน ไปควบคุมฝูงชน จนถูกวิพากษ์หนักว่าล้ำเส้นรัฐบาลท้องถิ่น ผิดธรรมเนียมปฏิบัติของการปกครอง นายทรัมป์ เผชิญหน้ากับทางการท้องถิ่นตำหนิว่าเหยาะแหยะ ไร้ประสิทธิภาพ ถึงขั้นพูดว่าควรจับกุมผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย
ด้านผู้ว่าการรัฐและหน่วยงานท้องถิ่นโต้กลับว่าผู้ประท้วงชุมนุมอย่างสันติ จนกระทั่งรัฐบาลนั่นเองที่ยั่วยุ ส่งทหารเข้าไปการกระทำของรัฐบาลที่ใช้อำนาจเกินเลยเข้าข่ายเผด็จการ ซึ่งไม่มีที่ยืนในอเมริกา พร้อมกันนั้นอัยการของรัฐได้ยื่นฟ้องการนำทหารรั้วของชาติ มาใช้เป็นเบี้ยทางการเมืองจัดการกับประชาชนถึงในเมืองใหญ่
เช่นเดียวกับอีกหลายวาระงานด้านผู้อพยพที่กำลังเป็นคดีความอยู่ ในขณะเดียวกันชีวิตของสองสามีภรรยาชาวเมียนมา หนทางที่จะต่อสู้ทางกฎหมายช่างมืดมน ทั้งสองได้แต่รำพึงว่านายทรัมป์ ทำให้ชีวิตพลิกผัน ตัดโอกาสการสร้างครอบครัว ตัดอนาคตทายาทไม่รู้อีกกี่รุ่นคน.-สำนักข่าวไทย