9 ทันโลก : เกาหลีใต้เตรียมเลือกตั้งพลิกวิกฤติการเมือง

เกาหลีใต้ 27 พ.ค. – อีก 7 วัน เกาหลีใต้จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในช่วงเวลาที่มีความวุ่นวายทางการเมืองจากปมปัญหาการประกาศกฎอัยการศึก


ตั้งแต่การประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผู้ประกาศกฎอัยการศึกต้องถูกถอดถอนและดำเนินคดีไปแล้ว แต่คนในชาติตกอยู่ในสภาพแบ่งขั้วแบ่งข้างอย่างหนัก นั่นเป็นที่มาของการเลือกตั้งในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ ก่อนกำหนดในอีก 2 ปี เนื่องจากนายยุน ซอกยอล ถูกถอดถอนจากตำแหน่งประธานาธิบดี ด้วยเหตุที่ประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งในทางกฎหมายถือว่าตัดสินใจที่ผิด แต่ในทางการเมืองมีทั้งผู้ที่รักและผู้ที่ชัง คนสองขั้วต่างลงถนน สรุปกันไม่ได้ระหว่างสิ่งที่ถูกใจกับสิ่งที่ถูกต้อง ผู้ที่อาสาจะมาทำหน้าที่ประธานาธิบดีคนใหม่จึงมีภารกิจท้าทายสมานรอยร้าวของคนในชาติ

จากจำนวนผู้สมัครหลายคน ผู้ที่มีโอกาสขับเคี่ยวคือสองผู้สมัครจากสองพรรคใหญ่ นั่นคือ นายอี แจ-มยอง จากพรรคประชาธิปไตย แกนนำฝ่ายค้าน อายุ 61 ปี เป็นผู้ที่มีคะแนนนิยมสูงที่สุดในเวลานี้ เขาอาสามาพลิกฟื้นวิกฤตการณ์ของชาติที่เกิดขึ้จากนายยูน ผู้ที่เขาพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อ 3 ปีก่อน แบบเฉียดฉิว คะแนนห่างกันไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสคว้าชัยในฐานะตัวแทนผู้ใช้แรงงานที่เติบโตในอาชีพในโรงงาน ผันตัวมาเป็นนักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน นายอี ชูนโยบายสร้างสาธารณรัฐที่แท้จริงของชาวเกาหลี ด้วยสังคมที่เท่าเทียมและการสร้างงาน นโยบายสำคัญอย่างหนึ่งคือการตั้งงบพิเศษพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เอไอ สำหรับนโยบายเกาหลีเหนือนั้นต่างไปจากนายมูน โดยมุ่งลดความตึงเครียด พร้อมๆ ไปกับรักษาเป้าหมายกำจัดอาวุธนิวเคลียร์


ส่วนพรรคพลังประชาชน หรือพีพีพี พรรครัฐบาลปัจจุบัน มีนายคิม มูนซู อดีตรัฐมนตรีแรงงาน หวังใช้ผลงานรัฐบาลเป็นตัวผลักดัน เขาชูนโยบายสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งด้วยการลดกฎระเบียบ เร่งการลงทุนด้านเอไอ เช่นกัน และลดภาษีให้กับชนชั้นกลาง ส่วนนโยบายเกาหลีเหนือนั้น เขายังคงแนวทางแข็งกร้าวของนายยุนเอาไว้ โดยได้เสนอการป้องกันภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ ด้วยการเสริมเขี้ยวเล็บขีปนาวุธของประเทศ รวมไปถึงการนำอาวุธนิวเคลียร์สหรัฐมาประจำการ

ไม่ว่าใครจะมาครองตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ นอกจากต้องสร้างความปรองดองในชาติแล้ว ยังมีสิ่งที่ท้าทายเรื่องเศรษฐกิจเช่นเดียวกับทุกประเทศ และยิ่งเกาหลีใต้เป็นเป้าหมายการตั้งมาตรการภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ 25 เปอร์เซ็นต์ ผู้นำคนใหม่ต้องมาพลิกฟื้นเริ่มจากสร้างความเชื่อมั่นในหมุ่ประชาชน แล้วต้องบริหารความสัมพันธ์กับสหรัฐพันธมิตรสำคัญให้เหมาะเจาะ พร้อมกับสร้างสมดุลกับจีน ซึ่งคู่ค้าอันดับหนึ่งของประเทศเช่นกัน ในด้านสังคม เกาหลีใต้เป็นประเทศพัฒนาแล้วที่เผชิญปัญหาสังคมสูงอายุ และอัตราการเกิดรุนแรงที่สุดประเทศหนึ่ง ถือว่าเป็นงานใหญ่ของผู้นำคนใหม่เช่นกัน

ประเด็นความมั่นคงเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ เป็นปัญหาใหญ่ทุกยุคทุกสมัย แม้ว่าในปีนี้จะไม่มีเรื่องตึงเครียดมากนักเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถไว้วางใจได้ว่าจะปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ ด้วยเหตุที่ผู้นำคนก่อนถูกถอดถอนไป ผู้ที่คว้าชัยชนะการเลือกตั้ง ไม่มีช่วงเปลี่ยนผ่าน หรือฮันนีมูน จึงจะต้องเริ่มทำงานในหน้าที่ทันทีเพื่อจัดการปัญหาที่รุมเร้า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถอนหายใจ ปัดตอบปมแลกกระทรวง-เลื่อนถก RBC

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ ไม่ตอบเดดไลน์แลกกระทรวงมหาดไทย-สถานการณ์ชายแดน หลังกัมพูชาเลื่อนการประชุม RBC ไม่มีกำหนด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ‘การเชื่อมโยงและปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ และการจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิ สวัสดิการ ที่จะได้รับรายบุคคล เพื่อบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ’ ระหว่าง 29 ฝ่าย (15 กระทรวง , 14 หน่วยงาน) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างเดินลงบันได จากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรี นายกรัฐมนตรีได้ถอนหายใจ พร้อมปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็น การปรับคณะรัฐมนตรีที่มีกระแสข่าวว่า ที่พรรคเพื่อไทยได้ยื่นข้อเสนอไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว ขอแลกตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรัฐมนตรีสำนักนายกฯ อีกตำแหน่ง ภายใน 48 ชั่วโมง หรือถึงเวลา 15.00 น. พรุ่งนี้ (19 มิถุนายน 2568) รวมไปถึงปฏิเสธการตอบคำถาม กรณีกัมพูชาเลื่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา ออกไปอย่างไม่มีกำหนด […]

กัมพูชาใช้เครื่องปั่นไฟทั่วเมือง หลังตัดไฟจากไทย

สระแก้ว 18 มิ.ย.- กัมพูชาพึ่งพาเครื่องปั่นไฟหลายจุด หลังตัดกระแสไฟจากไทย ไปใช้ของเวียดนาม ชาวบ้านในปอยเปตเผชิญปัญหาไฟตกและไฟดับตลอดคืน หลังจากที่ทางการกัมพูชาได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้า ที่รับจากฝั่งไทย และใช้ไฟฟ้าจากเวียดนามแทน ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่กรุงปอยเปต โดยเฉพาะบริเวณเขตที่พักอาศัยและกาสิโน ต้องเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าตกและไฟดับต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดได้รับความเสียหาย และการใช้ชีวิตประจำวันต้องหยุดชะงัก ขณะนี้ทางการกัมพูชาจำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องปั่นไฟฟ้าในหลายจุด ที่ทำงานตลอดเวลาเพื่อให้กระแสไฟฟ้ายังคงไหลเวียนในระบบ มีเสียงเครื่องปั่นไฟดังกระหึ่ม ไปทั่วเมืองจนชาวบ้านพากันพูดว่า “ตัดเอง ปั่นเอง ไม่เกรงใจใคร!” และยังไม่มีความชัดเจนว่าระบบไฟฟ้าที่รับจากเวียดนามจะสามารถรองรับความต้องการของทั้งเมืองได้มากน้อยเพียงใด .-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผย กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

สยองหนุ่มลำปางเสียชีวิตบนรถทัวร์ พบติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

ลำปาง 17 มิ.ย.- จากเหตุหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิตในรถทัวร์จากโคราชกลับบ้านที่ลำปางโดยที่เพื่อนร่วมทางไม่รู้ ผลชันสูตรพบติดเชื้อในกระแสเลือดจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ที่เคยระบาดในญี่ปุ่น ซึ่งญาติยืนยันผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยเป็นงูสวัดจนลามไปที่หูและพบอาการขาบวมไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ขณะที่แพทย์ระบุหากเกิดแผลมีโอกาสรับเชื้อแบคทีเรียจนเนื้อเน่าได้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ .-สำนักข่าวไทย