ฮานอย 19 พ.ค.- เอกสารภายในของรัฐบาลเวียดนามระบุว่า บริษัทผู้ถือหุ้นในการดำเนินกิจการทั้งหมดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะร่วมกับหุ้นส่วนในเวียดนามสำรวจสถานที่ที่จะสร้างตึกระฟ้าในเวียดนาม และบุตรชายของผู้นำสหรัฐจะไปเยือนในสัปดาห์นี้
รอยเตอร์รายงานว่า เอกสารวันที่ 15 พฤษภาคมที่ลงนามโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงระบุว่า เจ้าหน้าที่นครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเชิงพาณิชย์ของเวียดนามได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่โรงแรมแห่งหนึ่งในวันพฤหัสบดีนี้ กับนายเอริก ทรัมป์ ผู้เป็นบุตรคนที่ 3 และบุตรชายคนที่ 2 ของผู้นำสหรัฐ และดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารของทรัมป์ออร์แกไนเซชัน (Trump Organization) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลกิจการของผู้นำสหรัฐตั้งแต่ชนะเลือกตั้งสมัยแรก
เอกสารระบุว่า คณะตัวแทนของทรัมป์ออร์แกไนเซชันจะเยี่ยมชมย่านหรูใจกลางเมือง เพื่อสำรวจสถานที่ที่ได้รับการเสนอให้สร้างอาคารทรัมป์ทาวเวอร์ และจะหารือกับคณะผู้บริหารของเมืองโฮจิมินห์เรื่องโครงการนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือกับคณะตัวแทนชุดนี้

เอกสารภายในดังกล่าวระบุด้วยว่า ส่วนในวันนี้จะมีการประชุมระหว่างทางการโฮจิมินห์กับตัวแทนจากธุรกิจร่วมลงทุนระหว่างทรัมป์ออร์แกไนเซชันกับกิ่ญบั๊กซิตีดีเวลลอปเมนต์ (KinhBac City Development) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหุ้นส่วนในเวียดนามของทรัมป์ออร์แกไนเซชัน
ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเวียดนามเพิ่งอนุมัติโครงการมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 49,620 ล้านบาท) ของทรัมป์ออร์แกไนเซชันกับกิ่ญบั๊กซิตีดีเวลลอปเมนต์ เป็นโครงการสร้างสนามกอล์ฟ โรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ทางตอนเหนือของเวียดนาม แหล่งข่าวยืนยันว่า นายเอริก ทรัมป์จะไปวางศิลาฤกษ์โครงการในวันพุธนี้
เวียดนามเสี่ยงถูกสหรัฐขึ้นภาษีศุลกากรร้อยละ 46 หากไม่สามารถเจรจาการค้าได้ก่อนถึงเส้นตายพักการใช้ภาษีอัตราใหม่เป็นเวลา 90 วันจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคมตามเวลาสหรัฐ เวียดนามได้รับปากกับสหรัฐว่าจะดำเนินการหลายเรื่องเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกใช้ภาษีดังกล่าว มีตั้งแต่การลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ การลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี การปราบปรามการฉ้อโกงทางการค้าและการปลอมแปลงสินค้า ไปจนถึงการเสนอเงื่อนไขที่เอื้อให้แก่สตาร์ลิงก์ของนายอีลอน มัสก์ ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตในเวียดนาม.-814.-สำนักข่าวไทย