โป๊ปฟรังซิสสิ้นพระชนม์แล้ว

วาติกัน 21 เม.ย. – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน สิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา


แถลงการณ์ของสำนักวาติกันระบุว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส สิ้นพระชนม์ที่อาราม คาร์ซา ซานตา มาร์ตา ของพระองค์ ช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะทรงมีพระชนมายุ 88 พรรษา และว่าพระองค์ได้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อรับใช้พระเจ้าและศาสนจักรตลอดช่วงชีวิตของพระองค์ ขณะที่บรรดาผู้นำโลกต่างออกมาแสดงความไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของโป๊ปฟรังซิส ทั้งสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งอังกฤษ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประธานาธิบดีอิซัค แฮร์ซอก ของอิสราเอล นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ของสเปน และนายกรัฐมนตรีจอร์จีอา เมโลนี ของอิตาลี

ในส่วนของพิธีฝังพระศพ ร่างของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะถูกฝังภายในวิหารเซนต์ แมรี เมเจอร์ หนึ่งในวิหารหลัก 4 แห่งของสมเด็จพระสันตะปาปาในกรุงโรม ประเทศอิตาลี และจะทรงเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบมากกว่า 1 ศตวรรษ ที่จะถูกฝังพระศพนอกพื้นที่นครรัฐวาติกัน พระศพของโป๊ปฟรังซิสยังจะถูกบรรจุในหีบศพที่ทำจากไม้และทองแดง ซึ่งมีความเรียบง่ายกว่าหีบศพของโป๊ปพระองค์อื่นๆ ที่จะถูกฝังพร้อมกับหีบศพทำจากไซเปรสซึ่งเป็นไม้หอมศักดิ์สิทธิ์ที่ปิดผนึกไว้ในโลงศพตะกั่วขนาดใหญ่กว่า แล้วปิดทับด้วยกล่องไม้สนด้านนอก นอกจากนี้ หีบศพของพระองค์ยังจะถูกวางไว้ภายในมหาวิหาร เซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา ที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ เพื่อให้คริสตศาสนิกชนและบุคคลทั่วไปเข้าสักการะศพได้โดยง่าย ไม่ต้องตั้งหีบศพบนพื้นยกสูง แบบธรรมเนียมปฏิบัติที่เคยทำมา


สำหรับพิธีถวายความอาลัยจะกินเวลา 9 วัน โดยพระคาร์ดินัลจะเป็นผู้กำหนดวันฝังพระบรมศพ โดยปกติแล้ว คาดว่าพิธีศพจะจัดขึ้น 4-6 วันหลังจากที่พระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ ส่วนการประชุมเพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะเริ่มขึ้นที่โบสถ์น้อยซิสตินในนครรัฐวาติกัน ระหว่าง 15 – 20 วันหลังจากการสิ้นพระชนม์ คณะคอนเคลฟ ซึ่งประกอบด้วยพระคาร์ดินัลทุกคนที่อายุต่ำกว่า 80 ปีสามารถเข้าร่วมการลงคะแนนลับได้ พวกเขาต้องได้คะแนนเสียงข้างมากอย่างน้อย 2 ใน 3 บวกหนึ่งจึงจะเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้

ข่าวการสิ้นพระชนม์ของโป๊ปฟรังซิส เกิดขึ้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่ทรงปรากฎพระองค์จากบนระเบียงต่อหน้าบรรดาคริสตศาสนิกชนจำนวนมาก ที่รวมตัวบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ในนครรัฐวาติกัน เพื่อนำสวดประจำวันอาทิตย์ช่วงสั้นๆ ในเทศกาลอีสเตอร์ พร้อมกับทรงแสดงความห่วงใยต่อชาวคริสต์ในฉนวนกาซา ที่ยังคงต้องดำเนินชีวิตอย่างยากลำบาก พร้อมกับทรงเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีฉนวนกาซา ให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด และให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงทันที เพื่อให้เกิดสันติภาพในฉนวนกาซาอย่างยั่งยืน และหวังให้เกิดสันติภาพและความสงบในยูเครน ทรงระบุด้วยว่า สันติภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าปราศจากเสรีภาพในการนับถือศาสนา เสรีภาพทางในการแสดงความคิดและการแสดงออก

โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โป๊ปฟรังซิส ปรากฎพระองค์และร่วมพิธีสำคัญทางศาสนาไม่บ่อยนัก เนื่องจากทรงอยู่ระหว่างพักฟื้นเป็นเวลา 2 เดือน หลังจากต้องเข้าโรงพยาบาลในกรุงโรมเพื่อรักษาอาการประชวรเนื่องจากปอดบวมครั้งรุนแรงนานกว่า 5 สัปดาห์ และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ถือเป็นการเผชิญวิกฤตสุขภาพครั้งรุนแรงที่สุดตลอดที่ทรงอยู่ในตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก 12 ปีเต็ม


สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 พระองค์ทรงมีชื่อเป็นอันดับ 2 ในการประชุมสภาเลือกพระสันตะปาปาเมื่อปี 2018 ส่วนผู้มีชื่อเป็นอันดับ 1 และได้รับตำแหน่งคือ โจเซฟ รัตซิงเกอร์ ซึ่งเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ในเวลาต่อมา ก่อนที่สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 จะทรงสละตำแหน่งในปี 2013 และโป๊ปฟรังซิสทรงรับตำแหน่งต่อ

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่เลือกใช้ชื่อฟรังซิส เพื่อเป็นการระลึกถึงนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี ผู้เป็นที่รู้จักในเรื่องความทุ่มเทเพื่อคนยากจน และการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและถ่อมตน ซึ่งทรงยึดถือปฏิบัติมาตลอดพระชนม์ชีพ ทรงไม่ดำเนินตามประเพณีที่ยึดถือมาเกือบศตวรรษ ด้วยการเลือกประทับในอพาร์ตเมนต์ขนาด 2 ห้องนอนที่เรียบง่าย แทนการประทับ ณ ที่ประทับพระสันตะปาปาที่หรูหรา นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศอย่างเด่นชัด ผ่านการส่งเสริมให้สตรีดำรงตำแหน่งบริหารในวาติกัน และยังทรงเข้าถึงผู้คนในวงกว้างด้วยการเสด็จเยี่ยมร้านค้านอกสำนักวาติกันเป็นประจำ รวมถึงการมีผู้ติดตามจำนวนมากบนโลกออนไลน์ถึง 18 ล้านคนบน Twitter และ 9 ล้านคนบน Instagram พระองค์ยังทรงสร้างประวัติศาสตร์เป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรก ที่ปรากฏพระองค์บนปกของนิตยสารโรลลิงสโตน (Rolling Stone) ฉบับเดือนมกราคม 2557 ในบทความที่มีชื่อว่า “Pope Francis: The Times They Are A-Changin” ตอกย้ำถึงอิทธิพลระดับโลกของพระองค์และแนวทางการเป็นผู้นำที่ก้าวหน้า

นอกจากนี้ ในปี 2556 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ยังเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นบุคคลแห่งปีจากนิตยสารไทม์ ความอบอุ่น ความถ่อมตน และความทุ่มเทเพื่อผู้ด้อยโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการอวยพรเด็ก ๆ การเยี่ยมผู้ป่วย หรือการสนับสนุนความยุติธรรมทางสังคม ทำให้พระองค์ทรงได้รับการถวายตำแหน่ง “พระสันตะปาปาของประชาชน”.-815.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย