TNA News-Now-Next: จับตาเลือกตั้งแคนาดาเพื่อรับมือทรัมป์

Mark Carney announces dissolution of the Parliamentคาร์นีย์ประกาศยุบสภา

ออตตาวา 25 มี.ค. – นายมาร์ค คาร์นีย์ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา ประกาศจัดเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในวันที่ 28 เมษายนนี้ เพื่อขออาณัติจากประชาชนรับมือมาตรการทางภาษีและภัยคุกคามด้านอธิปไตย จากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ


จากนักการเงินสู่นักการเมือง

นายคาร์นี วัย 60 ปี เป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดาปี 2551-2556 และอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษปี 2556-2563 ถือเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษคนแรกที่ไม่ใช่คนอังกฤษ เขาไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองหรือการหาเสียงเลือกตั้งมาก่อน แต่ได้ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยม ที่เป็นพรรครัฐบาลแคนาดา และสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม หลังจากรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มข่มขู่คุกคามแคนาดาทั้งการใช้มาตรการทางภาษี และประกาศเจตจำนงต้องการให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ สอดคล้องกับช่วงเวลาที่นายจัสติน ทรูโด กำลังเผชิญแรงเสียดทานทางการเมืองภายในประเทศ ต้องยอมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรครัฐบาล และก้าวลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในที่สุด


Mark Carney takes oath as Canada PM
คาร์นีย์สาบานตนรับตำแหน่ง

แต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา นายคาร์นีย์ประกาศยุบสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด ที่จะมีขึ้นอย่างรวดเร็วในวันที่ 28 เมษายนนี้ หรืออีกเพียง 5 สัปดาห์ จากกำหนดเลือกตั้งเดิม คือวันที่ 20 ตุลาคม เพื่อต้องการอาณัติที่แข็งแกร่งจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการรับมือกับภัยคุกคามจากมาตรการทางภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐ ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของแคนาดา และระบุว่า แคนาดากำลังเผชิญวิกฤติสำคัญที่สุดในช่วงอายุของทุกคนในประเทศ เพราะมาตรการและนโยบายที่ไม่ยุติธรรมของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของแคนาดา

ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

การเลือกตั้งทั่วไปของแคนาดาไม่แตกต่างจากการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ ที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ได้ไปหย่อนบัตรเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เลือกพรรคการเมืองที่ตนเองชื่นชอบที่สุด พรรคใดที่ได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคนั้นก็จะได้ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


นั่นทำให้การเลือกตั้งทั่วไปรอบนี้ นายคาร์นีย์จะต้องแข่งขันกับหัวหน้าพรรคการเมืองสำคัญอีก 2 พรรค คือ นายปิแอร์ พอลิเอฟ (Pierre Poilievre) วัย 53 ปี หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก และ จักมีต ซิงห์ (Jagmeet Singh) วัย 46 ปี หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ (New Democratic Party) ส่วนพรรคการเมืองสำคัญอีกพรรค คือ บล็อก กีเบกัวซ์ (Bloc Quebecois) ส่งผู้สมัครลงชิงชัยเฉพาะในรัฐควิเบก (Quebec) ที่ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศสเท่านั้น

Pierre Poilievre Canada’s Conservative Party leader
ปิแอร์ พอลิเอฟ
Jagmeet Singh Canada's the NDP party leader
จักมีต ซิงห์

ปัจจุบัน พรรคเสรีนิยม ซึ่งครองอำนาจบริหารประเทศตั้งแต่ชนะเลือกตั้งในปี 2558 ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน คือ 153 ที่นั่ง ตามด้วยพรรคอนุรักษนิยม 120 ที่นั่ง พรรคบล็อก กีเบกัวซ์ มี 33 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปไตยใหม่ 24 ที่นั่ง นอกจากนั้น ยังมีพรรคกรีนมีที่นั่งในสภา 2 ที่นั่ง ผู้สมัครอิสระ 3 ที่นั่ง และว่างอีก 3 ที่นั่ง รวมทั้งหมด 338 ที่นั่ง แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จำนวน สส.จะเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งปี 2564 อีก 5 ที่นั่งรวมเป็น 343 ที่นั่งตามจำนวนประชากรชาวแคนาดาที่เพิ่มขึ้น

พรรครัฐบาลตีตื้นนำพรรคฝ่ายค้าน

การประกาศเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ ทำให้นายคาร์นีย์มีเวลาเพียง 5 สัปดาห์เท่านั้นในการหาเสียงเพื่อเอาชนะใจชาวแคนาดา ขณะที่ผลสำรวจคะแนนนิยมจาก 2 กลุ่มจัดทำโพลสำรวจ  พรรคเสรีนิยมของคาร์นีย์พลิกกลับมามีคะแนนนิยมนำหน้าพรรคอนุรักษนิยมเล็กน้อย คือร้อยละ 37.5 ต่อร้อยละ 37.1 หลังจากมีคะแนนนิยมตามหลังมาโดยตลอด ส่วนหนึ่งมาจากการประกาศลาออกจากตำแหน่งของทรูโดนั่นเอง บรรษัทกระจายเสียงแห่งชาติของแคนาดา หรือ CBC ระบุว่า ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ที่พรรคเสรีนิยมกลับมามีคะแนนนิยมในหมู่ประชาชนมากกว่าพรรคอนุรักษนิยม แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา พรรคอนุรักษนิยมจะยังพยายามโจมตีคาร์นีย์ว่า เป็นพวกชนชั้นนำที่มีแผนผลักดันนโยบายเดิม ๆ ในยุคของทรูโด ที่เน้นการใช้จ่ายภาครัฐบาลในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

ทรัมป์คือปัจจัยหลักพลิกฟื้นพรรคเสรีนิยม

นโยบายอเมริกาต้องมาก่อน ตามแนวทางอนุรักษนิยมของทรัมป์ ที่จริงเข้าคู่กันได้ดีในฐานะพันธมิตรทางอุดมการณ์กับพรรคอนุรักษนิยมของแคนาดาที่มีคำขวัญเลือกตั้งตรงกัน คือ Canada First แม้ว่าของแคนาดาจะพ่วงด้วย For Change หรือ “แคนาดาต้องมาก่อน เพื่อการเปลี่ยนแปลง”

รีพับลิกันของทรัมป์กับอนุรักษนิยมของพอลิเอฟ ควรเป็นคู่หูโดยธรรมชาติ แต่ด้วยกระแสต้านทรัมป์ในแคนาดา การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ตั้งแต่ปลายสมัยของนายจัสติน ทรูโด ที่ได้ต่อกรกับนายทรัมป์ ทำให้คะแนนนิยมของตัวเองและของพรรคเสรีนิยมก็กระเตื้องขึ้นมาตามลำดับ ตามการโต้กลับทรัมป์ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

ปรากฎการณ์ทรัมป์กับการเลือกตั้งแคนาดา

เมื่อนักข่าวถามว่า คิดอย่างไรเมื่อพันธมิตรอนุรักษ์นิยมในแคนาดาต้องเพลี่ยงพล้ำ ทรัมป์ตอบว่า “ไม่สำคัญอะไร คุยกับเสรีนิยมง่ายกว่าเสียอีก” นั่นยิ่งทำให้เสริมส่งเสรีนิยมมากขึ้นไปอีก

ตั้งแต่ชนะเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยม สาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประกาศเลือกตั้ง นายคาร์นีย์ประกาศในทุกโอกาสว่า ชาวแคนาดาต้องร่วมมือสู้ศึกใหญ่กับนายทรัมป์  

Canadians sound off as they protest U.S. tariffs
ชาวแคนาดาประท้วงทรัมป์

กระแสต้านทรัมป์ในแคนาดาจึงเป็นกระแสการเมืองที่ทรงพลัง เพราะชาวแคนาดาตกเป็นเป้าหมายของทรัมป์ ใช้มาตรการภาษีนำเข้า กล่าวหาว่าเอาเปรียบการค้า แหล่งยาเสพติด ถึงขั้นจะยึดแคนาดามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา  เลือดชาตินิยมในแคนาดาสูบฉีดแรง ในแทบทุกเวที ไม่ว่าจะเป็นเวทีประชันกีฬา เวทีการค้า เวทีการเมือง

แม้ว่า พรรคอนุรักษนิยมของแคนาดาจะประกาศจุดยืนต่อต้านทรัมป์  ยังต้องพิสูจน์อีกมาว่าทางพรรคจะวางตัวอย่างไรให้ถอยห่างจากทรัมป์ นโยบาย Canada First จะแตกต่างหรือทัดทาน America First ของนายทรัมป์ได้อย่างไร  

Final Thoughts: ปากท้องกับเกียรติภูมิชาติ ภารกิจของรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

แน่นอนว่า ประเด็นเลือกตั้งที่ชาวแคนาดาให้ความสนใจมากคือปัญหาปากท้องเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาบ้านและการดูแลสุขภาพที่แพงขึ้น แต่ปัจจัยทรัมป์กำลังมาแรงแซงขึ้นมาเบียด ทำให้ชาวแคนาดาจะพิเคราะห์กันว่า รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะดำเนินมาตรการเพื่อรับมือภัยคุกคามจากรัฐบาลสหรัฐของทรัมป์อย่างไร เมื่อประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดที่กำลังกลายเป็นคู่ปรับจากนโยบายรีดภาษีสินค้านำเข้า และความทะเยอทะยานที่จะผนวกแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวแคนาดาทุกคนไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้น (และไม่มีทางเกิดขึ้นในโลกความเป็นจริง) หลังการเลือกตั้ง 28 เมษายนนี้ รัฐบาลใหม่แคนาดาที่จะเกิดขึ้นจะต้องพิสูจน์ฝีมือว่าจะรับมือทรัมป์ที่คุกคามอธิปไตยของตนและรับมือกับแรงกดดันอย่างไร หากโต้กลับได้อย่างถึงพริกถึงขิงได้เหลี่ยมได้เชิงก็จะกลายเป็นแต้มต่อสำคัญทางการเมือง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยก็เอาใจช่วยแคนาดาอยู่เช่นกัน .-815(812).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ในหลวงทรงรับคนไข้

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะนายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้บาดเจ็บ แพทย์แจงอาการดีขึ้นแล้ว

Building after collapses in Myanmar in front of monk's eye

แผ่นดินไหวทำตึกเมียนมาถล่ม-ยอดตายเกินพันแล้ว

มัณฑะเลย์ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวานนี้ ทำให้อาคารหลังหนึ่งถล่มต่อหน้าต่อตากลุ่มพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจนถึงขณะนี้เกิน 1,000 คนแล้ว คลิปภาพที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนบกที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เห็นกลุ่มพระสงฆ์รวมตัวกันอยู่บนถนนใกล้อาคารหลังหนึ่งที่ค่อย ๆ เสียการทรงตัว ก่อนพังถล่มลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ฟุ้งกระจาย รอยเตอร์รายงานเมื่อเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลเมียนมาแถลงล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,002 คนแล้ว ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐหรือยูเอสจีเอส ซึ่งแจ้งขนาดแผ่นดินไหวไว้ที่ 7.7 และมีศูนย์กลางลึกเพียง 10 กิโลเมตรประเมินจากแบบจำลองการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเกิน 10,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย  

สาเหตุตึกถล่ม

นายกฯ เร่งกรมโยธาดูสาเหตุตึกถล่ม-หาทางแก้

นายกฯ รับรายงายสถานการณ์แผ่นดินไหว เร่งกรมโยธาดูสาเหตุ-หาทางแก้ตึกถล่ม ย้ำ ปชช. มั่นใจได้ เหตุแผ่นดินไหวตอนนี้ไม่กระทบไทยแล้ว เตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

วัดเสียหายแผ่นดินไหว

วัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

สำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์เชียงใหม่ สำรวจโบราณสถาน พบวัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มีทั้งรอยร้าว ฐานพระพุทธรูปอายุกว่า 700 ปีทรุด ยอดฉัตรทองคำหักเอียง