ญี่ปุ่นแนะประชาชนรับมือภูเขาไฟฟูจิปะทุ

โตเกียว 26 มี.ค. – รัฐบาลญี่ปุ่นเผยแนวปฏิบัติใหม่สำหรับชาวโตเกียว หากภูเขาไฟฟูจิปะทุ แนะให้อยู่บ้าน หลีกเลี่ยงความตื่นตระหนก สวมหน้ากาก-แว่นตา และเตรียมเสบียงให้เพียงพอ ผู้อาศัยในบ้านไม้ต้องอพยพหากเถ้าทับถมเกิน 30 เซนติเมตร เพื่อความปลอดภัย


คณะผู้เชี่ยวชาญซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นแต่งตั้งขึ้น ได้เสนอแนวปฏิบัติฉบับใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ประชาชนในกรณีที่ภูเขาไฟฟูจิ ยอดเขาสูงที่สุดของประเทศ เกิดการปะทุขึ้น ซึ่งแนวทางนี้ เน้นให้ชาวโตเกียว และพื้นที่ใกล้เคียงอยู่ในที่พักอาศัย เพื่อป้องกันเหตุโกลาหล หากขี้เถ้าภูเขาไฟตกลงมาปกคลุมเมืองหลวง โดยสื่อในประเทศนำเสนอภาพแอนิเมชันจำลอง แสดงให้เห็นการปะทุของภูเขาไฟฟูจิเสมือนเมื่อ 300 ปีก่อน ไม่มีหินหนืดลาวาไหลออกมา แต่มีเถ้าถ่านกว่า 800 ล้านลูกบาศก์เมตรออกมาอย่างต่อเนื่อง

แนวทางปฏิบัติแบ่งสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นออกเป็น 4 ระยะ พิจารณาจากความรุนแรงของเถ้าถ่านที่พวยพุ่งลงมา เริ่มจากระยะที่ 1 เมื่อมีเถ้าตกลงมาต่ำกว่า 3 เซนติเมตร ไปจนถึงระยะที่ 4 เมื่อเถ้าตกลงมาสูงเกิน 30 เซนติเมตร ประชาชนในพื้นที่ที่มีเถ้าตกทับถมน้อยกว่า 30 เซนติเมตรควรอยู่ในบ้าน หลีกเลี่ยงออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หากต้องออกนอกบ้าน ควรสวมแว่นตาและหน้ากากป้องกัน ไม่แนะนำให้ขับรถ เนื่องจากเถ้าจะบดบังทัศนวิสัยและเพิ่มความเสี่ยงบนท้องถนน พร้อมเตรียมสิ่งของจำเป็นที่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ผู้อาศัยอยู่ในบ้านไม้หรืออยู่ใกล้อาคารประเภทนี้ ควรอพยพในกรณีมีเถ้าตกลงมาสูงถึง 30 เซนติเมตรขึ้นไป เนื่องจากน้ำหนักเถ้าภูเขาไฟอาจเพิ่มขึ้นหากฝนตก ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างพังทลายได้ ถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นมีคำแนะนำอย่างละเอียดสำหรับประชาชนในสถานการณ์เช่นนี้ และรัฐบาลมีแผนจะส่งต่อแนวทางนี้ไปยังกระทรวงและจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการวางแผนบรรเทาภัยพิบัติ


สำหรับ ภูเขาไฟฟูจิปะทุครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ. 2250 หรือกว่า 300 ปีที่แล้ว กินเวลาถึง 2 สัปดาห์ และนับตั้งแต่นั้นมาก็ยังคงสงบนิ่ง แต่รัฐบาลเห็นความจำเป็นในการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการปะทุในระดับเดียวกันอาจทำให้เถ้าภูเขาไฟปกคลุมหนา 10 เซนติเมตรขึ้นไป ในพื้นที่กรุงโตเกียว จังหวัดคานากาวะ และพื้นที่อื่นๆ.-815.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จุดจบแก๊งทุจริตยา

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. บุกรวบแพทย์หญิง และเครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบข้อมูล ไปจ้างคนที่มีสิทธิเบิกราชการ หัวละ 1,000 เข้ามารับยา ก่อนเอาไปปล่อยต่อเม็ดละ 20 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋า 60 ล้าน ทำมาแล้ว 8 ปี

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]