มะนิลา 12 มี.ค. – นายโรดริโก ดูเตอร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ถูกส่งตัวไปยังกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ เพื่อขึ้นศาล หลังถูกจับกุมตามหมายจับศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี กรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการทำสงครามยาเสพติดสมัยดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ
หลังจากที่ดูเตอร์เต ถูกตำรวจสากลเข้าจับกุมที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศกรุงมะนิลาเมื่อวานนี้ ขณะเดินทางกลับจากฮ่องกงที่เขาได้ไปเดินสายหาเสียงกับกลุ่มแรงงานฟิลิปปินส์ ก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ ล่าสุด ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ ยืนยันว่า นายดูเตอร์เต วัย 79 ปี ซึ่งอยู่ในความควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์เพียงไม่กี่ชั่วโมง ได้ถูกส่งตัวขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำเดินทางไปยังกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์แล้วเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา เพื่อขึ้นศาลตามที่ไอซีซีออกหมายจับกุมตัวเขา พร้อมกับยืนยันว่าฟิลิปปินส์ปฏิบัติตามพันธะกฏหมายที่ต้องส่งตัวดูเตอร์เตให้กับไอซีซี แม้ว่าในปัจจุบัน ฟิลิปปินส์จะไม่ได้อยู่ในภาคีของไอซีซี เพราะถอนตัวออกมาตั้งแต่เมื่อปี 2562 ตามคำสั่งของนายดูเตอร์เต ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศในขณะนั้น
ด้าน ซารา ดูเตอร์เต บุตรสาวของอดีตผู้นำฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี บอกก่อนหน้านี้ว่าการจับกุมบิดาของเธอนั้นไม่ถูกต้องเพราะไม่มีกฎหมายใดๆ รองรับ และว่าเธอจะเดินทางไปยังกรุงเฮกด้วย โดยซารา ดูเตอร์เต ยังถือเป็นศัตรูทางการเมืองคนสำคัญของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์คนปัจจุบัน ขณะที่เมื่อวานนี้ ระหว่างนายดูเตอร์เตถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เขาได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับอำนาจศาล และบอกอย่างหนักแน่นว่าหากเขาทำความผิดจริง ก็ให้นำตัวเขาขึ้นศาลฟิลิปปินส์เพื่อพิจารณาคดีและลงโทษคุมขังเขาในเรือนจำบ้านเกิด นอกจากนี้ เขายังได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาไม่ให้ปฏิบัติตามหมายจับของไอซีซีด้วย
สงครามปราบยาเสพติดเป็นนโยบายหาเสียงหลักของนายดูเตอร์เต ที่ทำให้เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 จากนั้นเดินหน้าปราบปรามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดและอาชญากรรมอย่างเด็ดขาดรุนแรงตามที่ได้หาเสียงเลือกตั้งไว้ แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ อ้างว่า ตำรวจฟิลิปปินส์ได้ใช้วิธีศาลเตี้ยสังหารผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดที่ปราศจากอาวุธไปเป็นจำนวนมาก เชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตถึงกว่า 6,000 คน จากนโยบายทำสงครามปราบปรามยาเสพติดของนายดูเตอร์เต ระหว่างปี 2016-2022 สมัยที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี รวมถึงในช่วงที่เขาเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาก่อนหน้านั้นด้วย ขณะที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายดูเตอร์เตไม่เคยออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์นี้ และยังเน้นย้ำว่านโยบายปราบปรามยาเสพติดของเขาเป็นประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ.-815.-สำนักข่าวไทย