กรุงเทพฯ 5 มี.ค. – รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานอิสราเอล ชื่นชมแรงงานไทยมีฝีมือ ขยัน นิสัยดี ขณะนี้อิสราเอลกำลังต้องการรับแรงงานชาวไทยจำนวนมาก

นายโยอาฟ เบน ซูร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของอิสราเอล แถลงข่าวระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ 2-6 มีนาคม 2568 เผยถึงวัตถุประสงค์การเยือนไทยครั้งนี้ว่า มาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการตอบแทนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เคยไปเยือนอิสราเอลเมื่อปีที่แล้ว โดยเมื่อวานนี้ได้เข้าพบหารือกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ และแสดงความประสงค์ของอิสราเอล ที่ต้องการเปิดรับแรงงานไทยกลับเข้าไปทำงานในอิสราเอล เนื่องจากขณะนี้กำลังขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก หลังจากที่บรรดาแรงงานต่างชาติต้องอพยพกลับประเทศ เพราะเหตุกลุ่มติดอาวุธบุกโจมตีพื้นที่ทางใต้ของอิสราเอล เมื่อปี 2566
รัฐมนตรีแรงงานอิสราเอล เผยว่า ยอดแรงงานโดยรวมที่อิสราเอลต้องการ คือ 300,000 คน แต่แรงงานไทยเป็นกลุ่มที่นายจ้างอิสราเอลต้องการร่วมงานด้วยมากที่สุด เพราะขยัน มีความเป็นมิตร และมีทักษะฝีมือ โดยตั้งเป้าจะรับแรงงานไทย 200,000 คน ทั้งในภาคการเกษตร ก่อสร้าง ธุรกิจดูแลผู้สูงวัย และภาคบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร สำหรับโควตาปีนี้ ต้องการรับแรงงานไทย 20,000 คน พร้อมกับยืนยันว่า ปัจจุบันสถานการณ์ในอิสราเอลปลอดภัยมากขึ้น นับตั้งแต่อิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัน นอกจากนี้ ยังวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในประเทศเข้มงวดขึ้น เช่น ส่งกลับแรงงานปาเลสไตน์ที่เคยมีในประเทศทั้งหมดราว 150,000 คน สั่งห้ามชาวปาเลสไตน์เดินทางเข้าประเทศเด็ดขาด รวมทั้งสร้างที่หลบภัยสำหรับแรงงานต่างชาติ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จัดฝึกอบรมเพื่อการรักษาตัวรอดยามภัยมา และดูแลให้การจ้างงานคนต่างชาติอยู่เฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งห่างจากชายแดนปาเลสไตน์เท่านั้น.-810-สำนักข่าวไทย