วาติกัน 4 มี.ค. – พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ยังไม่พ้นขีดอันตราย หลังทรงประสบปัญหาระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลันถึง 2 ครั้งเมื่อวานนี้ แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจช่วย
สำนักวาติกันระบุในแถลงการณ์ล่าสุดว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงประสบปัญหาระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลันถึง 2 ครั้งเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการอุดตันของเสมหะในหลอดลมที่สะสมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงประสบปัญหาการบีบเกร็งของหลอดลม ซึ่งคล้ายกับอาการหอบหืด แพทย์จำเป็นต้องส่องกล้องตรวจหลอดลม 2 ครั้ง และตรวจดูทางเดินหายใจของพระองค์ ซึ่งต้องได้รับเครื่องช่วยหายใจอีกครั้ง ถือว่าพระอาการประชวรของโป๊ปฟรานซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ที่ต้องต่อสู้กับโรคปอดบวมทั้งสองข้างกลับมาทรุดลง
แถลงการณ์ยังระบุว่า การพยากรณ์อาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปายังคงต้องเฝ้าระวัง หมายความว่าโป๊ปฟรังซิสยังไม่พ้นขีดอันตราย
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เสด็จประทับโรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ประเทศอิตาล เพื่อรักษาอาการประชวรดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ช่วงเช้าวานนี้ พระอาการของพระองค์ยังทรงตัว และดูมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากทรงไม่มีไข้ บรรทมได้ดี และไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ก่อนที่พระอาการจะทรุดลงในช่วงบ่าย
ก่อนหน้านี้ โป๊ปฟรังซิสทรงได้พบกับเจ้าหน้าที่สำนักวาติกัน 2 คน และทรงฝากข้อความขอบคุณสำหรับการสวดภาวนาและการส่งคำอวยพรของคริสตศาสนิกชนจากทั่วโลก ที่ต่างร่วมสวดมนต์และส่งกำลังใจขอให้พระองค์ฟื้นจากอาการประชวรโดยเร็ว.-815.-สำนักข่าวไทย