โทรอนโต 19 ก.พ.- เจ้าหน้าที่สอบสวนของแคนาดาส่งกล่องดำทั้ง 2 กล่องของเครื่องบินโดยสารที่พลิกหงายท้องขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานในนครโทรอนโตไปวิเคราะห์แล้ว ขณะที่ผู้บาดเจ็บ 21 คนออกจากโรงพยาบาลแล้วเกือบทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ได้ส่งกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินและกล่องบันทึกข้อมูลการบินไปตรวจวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อสาเหตุของเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารของสายการบินเดลตาแอร์ไลน์ของสหรัฐที่ดำเนินการโดยเอ็นเดฟเวอร์แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินลูก ประสบเหตุชนและพลิกหงายท้อง ขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติโทรอนโตเพียร์สันเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น
การสอบสวนนำโดยทีมสอบสวนของแคนาดาและได้รับความช่วยเหลือจากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐและแคนาดา รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุ ปกติแล้วเหตุการณ์เครื่องบินชนมักมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยประกอบกัน
เว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์ 24 ที่ติดตามเที่ยวบินระบุว่า ช่วงเวลาที่เที่ยวบิน 4819 เดินทางจากท่าอากาศยานมินนีแอโพลิส-เซนต์พอลของสหรัฐมาลงจอดและประสบเหตุที่อากาศยานนานาชาติโทรอนโตเพียร์สันของแคนาดาเมื่อเวลา 14.13 น.วันที่ 17 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น สภาพอากาศในขณะนั้นมีลมพัดขวางกระโชกและมีหิมะฟุ้ง
คลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ในโลกโซเชียลเห็นช่วงเวลาที่ล้อเครื่องบินสัมผัสกับรันเวย์ แล้วปลายปีกเครื่องบินด้านขวาได้ครูดไปกับพื้น จนทำให้เกิดไฟลุกท่วมและควันดำโขมงไปตลอดทาง ขณะที่ตัวเครื่องบินส่ายไปส่ายมาก่อนพลิกหงายท้องขึ้นโดยที่ไฟยังลุกไหม้อยู่
ผู้โดยสารบนเครื่องบินเล่าว่า ทุกอย่างดูปกติดีจนกระทั่งล้อเครื่องบินสัมผัสกับพื้นรันเวย์จึงรู้สึกได้ว่าเครื่องบินกระเด้งกระดอนและส่ายไปมาก่อนพลิกหงายท้อง คนบนเครื่องทั้ง 80 ชีวิตสามารถอพยพออกจากเครื่องบินได้ทันท่วงที ไม่มีผู้เสียชีวิต
เดลตาแอร์ไลน์แถลงว่า ผู้บาดเจ็บทั้งหมด 21 คนที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว 19 คน ด้านผู้บริหารสนามบินบอกว่าอีก 2 คนที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลก็อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
สำหรับซากเครื่องบินคาดว่าจะยังไม่มีการเคลื่อนย้ายภายในเวลา 48 ชั่วโมง เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อน ส่วนรันเวย์ 2 แห่งที่ถูกปิดหลังเกิดเหตุจะต้องปิดไปจนกว่าจะมีการย้ายซากเครื่องบินออกไป.-816(814).-สำนักข่าวไทย