โซล 30 ธ.ค. – รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ 7 วัน ให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารสายการบิน เชจู แอร์ เส้นทางจากกรุงเทพไปเกาหลีใต้ ประสบอุบัติเหตุตกทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ เสียชีวิต 179 คน รอดแค่ 2 คน ผู้โดยสารหญิงไทย 2 คนอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตด้วย
ชอย ซัง-ม็อก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จัดประชุมฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายในกรุงโซล หลังจากเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบภารกิจกู้ภัยและอำนวยความช่วยเหลือด้านต่างๆ จากอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่เมืองมู่อัน พร้อมกับแถลงแสดงความเสียใจในนามรัฐบาล และร่วมไว้อาลัยกับครอบครัวผู้สูญเสีย มีการประกาศไว้อาลัยแห่งชาติทั่วประเทศนาน 7 วัน เริ่มเมื่อวานนี้ไปจนถึงเที่ยงคืนวันเสาร์หน้า
รัฐบาลจะให้การสนับสนุนที่จำเป็นทุกประการสำหรับความพยายามฟื้นฟู พร้อมกับประกาศให้พื้นที่เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารสายการบิน เชจู แอร์ ตกขณะลงจอดที่สนามบินเมืองมู่อัน จังหวัดช็อลลาใต้ มีผู้เสียชีวิต 179 คน และผู้รอดชีวิตเพียง 2 คน เป็นเขตภัยพิบัติพิเศษ เพื่อระดมทรัพยากรจากส่วนกลางลงไปช่วยภารกิจกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมทางอากาศยานครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศครั้งนี้
ขณะที่ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนหลายร้อยนายยังคงปฏิบัติภารกิจตลอดคืนเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุเครื่องบินตก โดยสามารถเก็บกู้กล่องดำทั้งสองกล่องของเครื่องบิน คือกล่องบันทึกข้อมูลการบิน และกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินได้แล้ว เตรียมส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบหาสาเหตุของเครื่องบินตกต่อไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกฝ่ายก็กำลังเร่งตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต ที่ขณะนี้พิสูจน์ทราบได้แล้ว 120 คน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของผู้โดยสารบนเครื่องบินลำนี้ ทั้งหมด 175 คน เป็นชาวเกาหลีใต้ 173 คน ชาวไทย 2 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 82 คน หญิง 93 อายุมากสุด 78 ปี อายุน้อยสุด 3 ขวบ มีเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีบนเครื่อง 5 คน ผู้โดยสารส่วนใหญ่อยู่ระหว่างเดินทางกลับเกาหลีใต้ หลังเสร็จสิ้นการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาสในประเทศไทยนาน 5 วัน จากบริษัทท่องเที่ยวที่จำหน่ายแพ็กเกจทัวร์ดังกล่าว และเช่าเหมาลำเครื่องบินลำนี้ อุบัติเหตุส่งผลให้ผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนลูกเรือ 6 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 4 คน มีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรอดชีวิต 2 คน ทั้งคู่บาดเจ็บปานกลางแต่ยังมีสติตอนถูกช่วยเหลือออกจากซากเครื่อง ตอนนี้ถูกส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลในกรุงโซลแล้ว
ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่สืบสวนให้น้ำหนักไปที่ปัจจัยสภาพอากาศเลวร้ายและเครื่องบินพุ่งชนนกระหว่างเตรียมลงจอด ส่งผลให้ระบบสำหรับช่วยลงจอดของเครื่องบินขัดข้อง ล้อหน้าไม่ได้กางออกขณะเครื่องบินร่อนลงจอด ทำให้ต้องใช้ลำตัวเครื่องไถลไปบนรันเวย์ รวมถึงหอบังคับการบินแจ้งเตือนว่าเครื่องบินพุ่งชนฝูงนก จนนักบินต้องประกาศเหตุฉุกเฉินก่อนนำเครื่องบินลงจอด สอดคล้องกับข้อมูลที่พบว่า เครื่องบินที่ลงจอดยังสนามบินเมืองมู่อันแห่งนี้ เผชิญเหตุชนนกมากที่สุดเมื่อเทียบกับสนามบินอื่นๆ ในเกาหลีใต้ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนชี้ว่า ควรมีการสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะเหตุเครื่องบินชนนกอย่างเดียวไม่น่าทำให้ล้อหน้าที่จะต้องกางออกตอนลงจอดขัดข้องพร้อมกันถึง 3 จุด อีกทั้งเมื่อพิจารณาคลิปขณะเครื่องบินลงจอดก่อนไถลไปกระแทกรั้วกั้นคอนกรีต พบว่าเครื่องบินพุ่งไถลด้วยความเร็วสูงผิดปกติ ซึ่งอาจมาจากระบบช่วยลดความเร็วเครื่องยนต์ หรือ Thrust Reverser และปีกสร้างแรงยก หรือ Wing Flaps ไม่ทำงานหรือเกิดการขัดข้อง
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตครั้งแรกของสายการบิน เจจู แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของเกาหลีใต้ที่ตั้งขึ้นในปี 2548 และยังเป็นอุบัติเหตุสายการบินครั้งร้ายแรงที่สุดของเกาหลีใต้นับจากปี 2540 ที่เครื่องบินของสายการบิน โคเรียน แอร์ ตกที่กวม ดินแดนของสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิต 229 คน รวมถึงเป็นเหตุภัยพิบัติที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเกาหลีใต้ นับตั้งแต่โศกนาฏกรรมเรือเซวอลอับปางในปี 2557 ที่มีผู้เสียชีวิต 304 คน.-815.-สำนักข่าวไทย