วอชิงตัน 24 ธ.ค. – นักการเมืองคนสนิทที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานธิบดีสหรัฐเสนอให้เป็นรัฐมนตรียุติธรรมมีประวัติอื้อฉาวมากมายไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์กับผู้เยาว์และยาเสพติด
คณะกรรมาธิการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยผลการสืบสวนนายแม็ท เกทส์ อดีต ส.ส.พรรครีพับลิกัน ที่นายทรัมป์ เสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรียุติธรรมว่า ในช่วงระหว่างปี 2560 ถึง 2563 นายเกทส์ได้ใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อบริการทางเพศและยาเสพติดรวมเป็นเงินกว่า 90,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 3 ล้านบาท โดยทำธุรกรรมแบบซับซ้อนเพื่อปกปิดการชำระเงิน
รายงานยังพบว่าเขาใช้บริการหญิงค้าประเวณีหลายครั้งและยังมีเพศสัมพันธ์กับเยาวชนหญิงอายุ 17 ปีด้วยโดยมีอาชญากรที่เป็นนักโทษคอยเป็นธุระจัดหาให้ ส่วนด้านยาเสพติดก็ยังพบว่า นายเกทส์ครอบครองยาเสพติดหลายประเภทเช่นโคเคน นอกจากนั้นยังเกี่ยวข้องกับการรับของกำนัลที่มีมูลค่าเกินกำหนด และ ยังใช้สถานะความเป็นสมาชิกรัฐสภาในการเอื้อต่อผู้หญิงที่เขามีเพศสัมพันธ์ด้วยในการทำพาสปอร์ต
รายงานนี้ระบุว่า คณะกรรมาธิการเชื่อว่านายเกทส์ กระทำผิดจริยธรรมแล้วยังพยายามขัดขวางการ สืบสวนด้วยการปกปิด และบิดเบือนเพื่อไม่ให้ความจริงปรากฎ ด้านเจ้าตัวยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาในรายงานและโต้ว่าเป็นการเล่นงานทางการเมือง
ขณะเดียวกันทีมงานของนายทรัมป์ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ได้ประกาศว่ากำลังเตรียมถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก หรือ ดับเบิลยูเอชโอ ตั้งแต่วันแรกที่เขารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ตามที่ตัวเขาต่อต้านองค์กรระหว่างประเทศที่ทำงานกำหนดนโยบายสาธารณสุขและการรับมือโรคอุบัติใหม่ของทั้งโลก โดยเฉพาะกรณีโรคโควิด-19 นั้นเขาได้ ตำหนิดับเบิลยูเอชโอว่าไม่สามารถเอาผิดกับจีนที่เป็นต้นกำเนิดไวรัสได้ นายทรัมป์ ได้เสนอชื่อบุคคลหลายคนที่ต่อต้านดับเบิลยูเอชโอ มารับตำแหน่งด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะนาย โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ จูเนียร์ ซึ่งเป็นผู้ที่ต่อต้านการใช้วัคซีน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากสหรัฐถอนตัวออกมาจริงจะกระทบกับระบบเฝ้าระวังโรคและการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินของทั้งโลก.-812.-สำนักข่าวไทย