โกนากรี 3 ธ.ค. – เหตุการณ์โกลาหลเหยียบกันตายในสนามฟุตบอลประเทศกินี อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 100 ราย ขณะที่นายกรัฐมนตรีกินี สั่งสอบสวนโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น พร้อมให้ความช่วยหลือผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่
สถานการณ์ความโกลาหลเกิดขึ้นภายในสนามฟุตบอลในเมืองเอ็นเซเรกอเร เมืองใหญ่อันดับสองทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศกินี เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดเหตุวุ่นวายระหว่างการแข่งขันฟุตบอลที่สนามแห่งนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มแฟนบอลทีมลาเบ ซึ่งเป็นทีมเยือน ไม่พอใจการตัดสินของกรรมการที่เป่าให้ลูกจุดโทษทีมเอ็นเซเรกอเร ซึ่งเป็นเจ้าบ้าน และแจกใบแดงไล่นักเตะทีมเยือน 2 คนออกจากสนาม ทำให้มีการขว้างปาก้อนหินและสิ่งของลงไปในสนาม ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้ามาห้ามปรามและยิงแก๊สน้ำตาหวังหยุดความรุนแรง ส่งผลให้แฟนบอลจำนวนมากตื่นตกใจพยายามออกจากสนาม แต่ทางออกมีเพียงทางเดียวทำให้เกิดเป็นคอขวด ผู้คนเบียดเสียดเพื่อพยายามรีบออกจากสนาม บ้างปีนกำแพงหนีออกจากสนามท่ามกลางความโกลาหล
ข้อมูลจากรัฐบาลแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตจากการเบียดเสียดและเหยียบกันอย่างน้อย 56 ราย หลายรายเป็นเด็ก แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านั้นมากถึงกว่า 100 ราย ขณะที่นายกรัฐมนตรี ออรี บาห์ ของกินี ระบุในแถลงการณ์ว่า สั่งให้มีการสอบสวนเพื่อหาผู้รับผิดในเหตุการณ์น่าเศร้าครั้งนี้ และขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียและครอบครัว รัฐบาลจะดูแลเรื่องรักษาพยาบาลแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกคน
สำหรับกินีเป็นหนึ่งในหลายประเทศในแอฟริกา ซึ่งรวมถึงเอธิโอเปีย แกมเบีย ชาด และเซียร์ราลีโอน ที่ถูกห้ามจัดแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ เนื่องจากสนามแข่งขันในประเทศไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ทำให้นักเตะทีมชาติกินีต้องลงแข่งฟุตบอลระดับนานาชาติ รวมถึงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติแอฟริการอบคัดเลือกที่ผ่านมา ในไอวอรีโคสต์ ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านแทน.-815.-สำนักข่าวไทย