โตเกียว 25 ต.ค. – ร้านราเม็งที่ญี่ปุ่นขึ้นราคา ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดของญี่ปุ่นที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
เจ้าของร้านราเม็ง “เมนยะ ไทเซอิ” (Menya Taisei) ร้านราเม็งชื่อดังในกรุงโตเกียว ยอมรับว่าร้านราเม็งของเขาจำเป็นต้องขึ้นราคาเมนูต่างๆ หลังต้องเผชิญปัญหาวัตถุดิบและเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงขึ้น
ราเม็งของร้าน “เมนยะ ไทเซอิ” กวาดรางวัลจากเวทีการประกวดมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่การขึ้นราคาราเม็งกลับทำให้เจ้าของร้านไม่สบายใจเพราะค่าครองชีพและราคาวัตถุดับสำหรับทำราเม็งสูงขึ้น ทางร้านใช้วัตถุดิบส่วนมากที่ผลิตในญี่ปุ่น ในขณะที่ราเม็งบางร้านใช้วัตถุดิบอาทิ แป้ง ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ
เจ้าของร้านราเม็ง “เมนยะ ไทเซอิ” บอกว่า ตั้งแต่เปิดร้านมาประมาณ 1 ปีครึ่ง ต้องขึ้นราคาเมนูราเม็งต่าง ๆ ไปแล้ว 3 ครั้ง รวมไปถึงเมนูเด็ดขายดีของร้านที่เรียกว่า “สเปเชียล ราเม็ง” (Special Ramen) ที่ขึ้นราคาเป็น 1,250 เยน (ราว 277 บาท) เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากราคาเดิม
วิกฤตราเม็งราคาแพง เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองของญี่ปุ่นในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคมนี้ หลังจากนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ ผู้นำคนใหม่ ประกาศยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยอิชิบะ ผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นพวก ‘คลั่งราเม็ง’ เคยให้คำมั่นว่าเขาและรัฐบาลจะหามาตรการต่าง ๆ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสําหรับภาคธุรกิจและครัวเรือนด้วย
สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ภายในปีนี้ อาจมีร้านราเม็งจำนวนมากต้องปิดตัวหรือล้มละลายลง โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีร้านราเม็งเกือบ 50 เจ้าที่เป็นหนี้อย่างน้อย 10 ล้านเยน หรือประมาณ 2 ล้านบาท ในขณะที่เมื่อปี 2020 มีร้านราเม็งถึง 54 ร้านที่ต้องปิดตัวลงเพราะปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ.-815.-สำนักข่าวไทย