ฟลอริดา 8 ต.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโทษความเป็นผู้นำของสหรัฐในงานรำลึกครบ 1 ปีสงครามกาซา ขณะที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ปลูกต้นไม้อุทิศให้แก่ผู้ถูกฮามาสสังหาร 1,200 คน
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในพิธีจุดเทียนรำลึกที่รัฐฟลอริดาเมื่อวานนี้ว่า วันที่ 7 ตุลาคมไม่เพียงเป็นวันนองเลือดที่สุดสำหรับชาวยิว นับจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวหรือโฮโลคอสต์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่เพียงเป็นการก่อการร้ายที่เลวร้ายที่สุดนับจากโศกนาฏกรรม 11 กันยายน 2544 แต่ยังเป็นการทำร้ายมนุษยชาติด้วยกัน ราวกับว่าประตูแห่งนรกได้เปิดออกมาอย่างกะทันหันและปลดปล่อยความชั่วร้ายมายังโลก
ทรัมป์กล่าวว่า หากเขาได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง ความผูกพันระหว่างสหรัฐกับอิสราเอลจะกลับมาแข็งแกร่งและใกล้ชิดมากกว่าที่เป็นมา ดังนั้นการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนจะเป็นวันสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐและอิสราเอล ทรัมป์กล่าวโทษว่า เหตุการณ์ในอิสราเอลเกิดจากการขาดความเป็นผู้นำของสหรัฐ เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นหากเขาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในเวลานั้น
ด้านรองประธานาธิบดีแฮร์ริสและนายดัก เอ็มฮอฟฟ์ บุรุษหมายเลข 2 ของสหรัฐ ได้ปลูกต้นทับทิมบริเวณที่พักอย่างเป็นทางการเพื่ออุทิศให้แก่ผู้ถูกฮามาสบุกเข้ามาสังหารในอิสราเอล 1,200 คนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ในจำนวนนี้ 46 คน เป็นชาวอเมริกัน เธอและสามีขอสวดภาวนาให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสีย เธอทราบมาว่า คำสวดไว้อาลัยของชาวยิวไม่ได้เกี่ยวกับความตาย แต่เป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นในพระเจ้า แม้แต่ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด ดังนั้นขอให้ทุกคนยังคงมีความเชื่อมั่นและศรัทธา และจะต้องทำให้ตัวประกันได้กลับมาพบหน้าครอบครัว เธอจะไม่หยุดต่อสู้เรื่องการทำให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด รวมถึงตัวประกันชาวอเมริกันทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตไปแล้ว.-814.-สำนักข่าวไทย
