กินชาซา 3 ก.ย. – ผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร หรือเอ็มพอกซ์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกประสบความยากลำบากในการดูแลตนเองจากอาการป่วย เพราะขาดแคลนยารักษา จนต้องใช้วิธีพื้นบ้านอย่างน้ำมะนาว หรือน้ำผสมสารอื่นๆ มาทาแผลตุ่มพองตามร่างกาย
สาธารณรัฐคองโกกำลังเผชิญกับการระบาดรุนแรงของโรคฝีดาษวานร หรือเอ็มพอกซ์ จนองค์การอนามัยโลกประกาศให้สถานการณ์นี้ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อเดือนที่ผ่านมาโดยเฉพาะในเมืองคาวูมู ทางตะวันออกของประเทศ กำลังเป็นจุดศูนย์กลางของการแพร่ระบาด สภาพความเป็นอยู่ของผู้ป่วยในโรงพยาบาลคาวูมูถือว่าได้ว่าวิกฤตหนัก ผู้ป่วยกว่า 900 คนเข้ารักษาในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาต้องอาศัยอยู่อย่างแออัดในเต็นท์พลาสติกขนาดใหญ่ 3 หลัง ที่ตั้งอยู่บนพื้นดินชื้นแฉะ ไม่มีแม้แต่พื้นรองนอน ญาติไม่สามารถเข้าเยี่ยม หรือนำอาหารมาให้ได้ เนื่องจากความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อ ขณะที่โรงพยาบาลประสบปัญหาขาดแคลนยา และอุปกรณ์การแพทย์อย่างรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยต้องพึ่งพาวิธีรักษาแบบพื้นบ้าน เช่น การใช้โพแทสเซียมไบคาร์บอเนตผสมน้ำ หรือน้ำมะนาวมาทาแผลตุ่มพองตามร่างกาย บางคนนำเข็มเย็บผ้ามาจิ้มแผลตุ่มพองให้แตก หวังให้อาการทรมานจากโรคหายโดยเร็ว แต่วิธีการเหล่านี้กลับทำให้อาการกำเริบยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉิน 10 ล้านดอลลาร์ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของฝีดาษวานร โดยเฉพาะกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และกำลังเร่งส่งวัคซีนไปยังพื้นที่ต่างๆ แต่การกระจายความช่วยเหลือยังคงล่าช้า โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษวานรในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสูงถึง 19,710 คน ในจำนวนนี้ยืนยันว่าติดเชื้อแล้ว 5,041 คน และมีผู้เสียชีวิต 655 คน.-815.-สำนักข่าวไทย