มะนิลา 28 ส.ค.- เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ชี้ว่า การสอบสวนอดีตนายกเทศมนตรีบัมบันเรื่องสัญชาติและการทำข้อตกลงธุรกิจ อาจนำมาซึ่งการอุดช่องโหว่กฎหมายที่อนุญาตให้แจ้งเกิดช้า หลังจากเธอถูกต้องสงสัยว่าเป็นสายลับที่เกิดในจีน
นายริชาร์ด แอนโทนี ฟาดูญญอน รองอัยการสูงสุดอาวุโสของฟิลิปปินส์กล่าวในการเสวนาที่เมืองเกซอนเมื่อวานนี้ว่า การที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภากำลังไต่สวนนางอลิซ กัว ที่ถูกผู้ตรวจการของรัฐสภาปลดจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลบัมบัน จังหวัดตาร์ลักเมื่อไม่นานมานี้ โทษฐานประพฤติผิดร้ายแรง อาจช่วยอุดช่องโหว่การฉวยประโยชน์จากระบบที่อนุญาตให้แจ้งเกิดล่าช้าได้หลายปี เขามองว่า การแจ้งเกิดช้ายังคงมีความจำเป็น เพื่อให้บุคคลสามารถยื่นขอเอกสารทางการอื่น ๆ แต่ต้องมีมาตรการควบคุมเคร่งครัด
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์เผยว่า รัฐบาลกำลังสอบสวนว่า นางกัวหนีออกนอกประเทศได้อย่างไร หลังจากที่เขาสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางของเธอได้เพียง 1 วัน โดยจะเปิดโปงกลุ่มคนที่ทรยศความไว้วางใจของประชาชนด้วยการช่วยนางกัวหลบหนี
นางกัวแจ้งว่า เกิดในปี 2533 แต่เชื่อว่า น่าจะเกิดจริงในปี 2529 โดยแจ้งว่าเกิดที่ฟิลิปปินส์แต่จำสถานที่ไม่ได้ ผลการสอบสวนพบว่า แท้จริงแล้วเธอเกิดในจีน และเดินทางมาฟิลิปปินส์พร้อมกับมารดาที่เป็นนักธุรกิจ เธอไม่ยอมเข้าให้การต่อวุฒิสภาเรื่องพัวพันกับอาชญากรรม หลังจากเมื่อเดือนมีนาคมเจ้าหน้าที่สามารถเปิดโปงแก๊งหลอกลวงออนไลน์อยู่ในกาสิโนที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่เธอเป็นเจ้าของอยู่บางส่วน.-814.-สำนักข่าวไทย