กรุงเทพฯ 15 ส.ค.- รอยเตอร์สอบถามความเห็นของผู้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 เสียงให้นายเศรษฐา ทวีสิน วัย 62 ปี พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้
สตรีเจ้าของร้านหนังสือวัย 60 ปี กล่าวว่า เศรษฐกิจเวลานี้เงียบเหงามาก สัปดาห์ที่แล้วที่พรรคก้าวไกลถูกสั่งยุบพรรค เศรษฐกิจก็เงียบเหงา และเมื่อวานนี้ที่นายกรัฐมนตรีถูกสั่งพ้นจากตำแหน่ง เศรษฐกิจก็เงียบเหงา หากการเมืองยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เธอเชื่อว่าเศรษฐกิจประเทศจะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
ด้านสตรีเจ้าของแผงขายอาหารริมทางวัย 65 ปี ไม่รู้สึกกังวลกับการเมืองมากเท่าใดนัก เพราะในที่สุดแล้วก็จะมีคนมาดำรงตำแหน่งแทน และไม่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะประเทศไทยก็เป็นแบบนี้ ขณะที่ชายขับรถจักรยานยนต์รับจ้างวัย 47 ปีมองว่า คนที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นอยู่กับรัฐสภาว่า จะเลือกใครและคิดจะทำอะไร เราเป็นเพียงประชาชนที่รอคำตอบจากคนข้างบนเท่านั้น
รอยเตอร์ระบุว่า ประเทศไทยเกิด “ละครทางการเมือง” อีกครั้งภายในเวลาไม่ถึงปี หลังนายเศรษฐาได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อพรรคเพื่อไทยได้กลับมาคุมอำนาจอีกครั้ง หลังจากที่เกิดภาวะทางตันในรัฐสภามาหลายสัปดาห์ พรรคเพื่อไทยจะประชุมในวันนี้เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากนายเศรษฐา และต้องเร่งหาเสียงสนับสนุนก่อนที่รัฐสภาจะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันศุกร์.-814.-สำนักข่าวไทย