อู่ฮั่น 12 ส.ค.- บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับกำลังได้รับความนิยมในจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผู้ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างเสี่ยงตกงาน
ชายชาวเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของจีนเผยว่า นำรถส่วนตัวมาเป็นรถรับจ้างเพื่อทำเป็นอาชีพเสริม เนื่องจากงานก่อสร้างซบเซาตามตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้นตัว แต่ขณะนี้กำลังเผชิญความเสี่ยงใหม่ เมื่อลูกค้าหันมาใช้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับกันมากขึ้น
นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญในจีนชี้ว่า ผู้นำรถส่วนตัวมารับจ้างที่มีมากถึง 7 ล้านคนและคนขับรถแท็กซี่ คือ คนกลุ่มแรกที่เสี่ยงตกงานเพราะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) เนื่องจากทางการจีนได้เร่งอนุมัติให้นำรถไร้คนขับมาทดลองแล่นตามท้องถนน และมีอย่างน้อย 19 เมืองที่กำลังทดลองรถแท็กซี่ไร้คนขับและรถโดยสารไร้คนขับ โดยมีบริษัทที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรม 5 แห่ง ประกอบด้วย อะพอลโลโก (Apollo Go), โพนีดอทเอไอ (Pony.ai), วีไรด์ (WeRide), ออโต้เอ็กซ์ (AutoX) และเอสเอไอซีมอเตอร์ (SAIC Motor)
บริษัทรถไร้คนขับบางแห่งชี้แจงว่า ธุรกิจนี้จะเข้าเสริม ไม่ใช่แทนที่วิธีการขนส่งปัจจุบัน อีกทั้งยังจะมีการจ้างงานคนเพื่อทำหน้าที่เกี่ยวกับการทดสอบและวิเคราะห์การเดินรถไร้คนขับ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่มมองว่า งานที่ไม่ต้องใช้คนจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวสำหรับจีนที่กำลังมีจำนวนประชากรลดลง แต่ในระยะสั้นจะต้องรักษาสมดุลเรื่องความเร็วในการสร้างงานใหม่กับการทำลายงานเก่า.-814.-สำนักข่าวไทย