เคียฟ 12 ส.ค.- เกิดเหตุไฟลุกไหม้ภายในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่รัสเซียเข้ายึดครองในพื้นที่ทางใต้ของยูเครน เปลวเพลิงและควันไฟมองเห็นได้จากที่ไกล โดยที่รัสเซียและยูเครนต่างกล่าวหากันว่าเป็นฝ่ายก่อเหตุ
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน โพสต์คลิปวีดิโอลงแพลตฟอร์มเทเลแกรม เป็นภาพไฟลุกไหม้ ใกล้หอหล่อเย็นของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวที่เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีเตาปฏิกรณ์มากถึง 6 เตา โดยระบุว่า กองกำลังรัสเซียเป็นฝ่ายจุดไฟ อย่างไรก็ดี ค่าระดับกัมมันตรังสียังคงปกติ
ด้านเจ้าหน้าที่รัสเซียในดินแดนยึดครองกล่าวหายูเครนว่า ยิงปืนใหญ่โจมตีเมืองเอเนอร์โฮดาร์ ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้ใกล้หอหล่อเย็น แต่ไม่มีผลกระทบต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัย เมืองเอเนอร์โฮดาร์และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียถูกรัสเซียยึดครองตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ได้ไม่นาน
ไฟไหม้เกิดขึ้นราวเวลา 20.00 น.วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงคืนวันเดียวกันตามเวลาไทย และเกิดขึ้นหลังจากกองกำลังยูเครนเปิดฉากรุกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดได้ไม่ถึงสัปดาห์ ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของไฟไหม้ ด้านสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ (IAEA) ของสหประชาชาติที่ส่งผู้เชี่ยวชาญไปดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้แจ้งว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญเห็นกลุ่มควันดำหนาทึบออกมาจากด้านเหนือของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หลังจากเกิดการระเบิดหลายครั้ง.-810(814).-สำนักข่าวไทย