มอสโก 11 ส.ค.- รัสเซียและยูเครนต่างอพยพประชาชนออกจากพื้นที่บริเวณพรมแดนที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังสู้รบกันมาหลายวันจากการที่ยูเครนบุกโจมตีดินแดนในรัสเซียครั้งใหญ่
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของรัสเซียเผยเมื่อวันเสาร์ว่า มีประชาชนมากกว่า76,000 คน ได้รับการอพยพออกจากแคว้นคุสค์ (Kursk) ซึ่งอยู่ติดพรมแดนยูเครนที่ทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบปะทะกันเป็นวันที่ 6 แล้ว หลังยูเครนบุกโจมตีแคว้นคุสค์ และ เป็นการโจมตีในดินแดนของรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดของยูเครน นับแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มขึ้นเมื่อปี 2565 รัสเซียได้อพยพประชาชนไปอยู่ที่เมืองโอริออล แคว้นโอริออล (Oryol) ห่างแคว้นคุสค์ขึ้นไปทางเหนือ 140 กิโลเมตร และมีกลุ่มนักจิตวิทยาเข้าช่วยเหลือพูดคุยกับผู้ที่อยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อให้คลายภาวะกดดันและลดผลกระทบทางจิตใจ
ส่วนเมื่อวันศุกร์ เจ้าหน้าที่ยูเครนสั่งอพยพประชาชนราว 20,000 คน จาก 28 ชุมชน ในแคว้นซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มผู้อพยพนำข้าวของติดตัวมาได้เพียงไม่กี่อย่างและอุ้มเอาสัตว์เลี้ยง มาขึ้นรถตู้ที่จอดรอช่วยอพยพออกนอกพื้นที่ แคว้นซูมีตั้งอยู่ตรงข้ามกับแคว้นคุสค์ของรัสเซีย ที่ระดมการโจมตียูเครนด้วยระเบิดนำวิถีอย่างหนักหน่วง เพื่อตอบโต้สกัดทหารยูเครนที่บุกโจมตีแคว้นคุสค์ล่วงเข้าสู่วันที่ 6 แล้ว นับตั้งแต่ยูเครนเคลื่อนกำลังเข้าบุกตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม รัสเซียมองว่า ยูเครนพยายามบีบให้รัสเซียผันถอนทรัพยากรออกจากการสู้รบบริเวณแนวหน้าในยูเครน .-810(814).-สำนักข่าวไทย