ธากา 6 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีเชค ฮาซีนา ผู้นำหญิงของบังกลาเทศ ลาออกจากตำแหน่งและเดินทางออกนอกประเทศแล้ว หลังเกิดการประท้วงนองเลือดรุนแรงทั่วประเทศช่วงหลายวันที่ผ่านมา ปิดฉากการบริหารประเทศต่อเนื่องยาวนานเกินกว่า 20 ปี
เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีฮาซีนา ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศมาตั้งแต่ปี 2552 ได้ลาออกจากตำแหน่งและเดินทางออกนอกประเทศเพื่อความปลอดภัยของตนเองไปยังประเทศอินเดีย โดยมีรายงานว่า เธอจะเดินทางต่อไปยังกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ การก้าวลงจากตำแหน่งของเธอได้สร้างความยินดีให้กับผู้คนชาวบังกลาเทศทั้งประเทศ ที่ออกไปรวมตัวในกรุงธากาและตามเมืองต่างๆ บางส่วนบุกเข้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงธากา และหยิบฉวยทรัพย์สินต่างๆ ภายในทำเนียบไปเป็นจำนวนมาก อาคารหลายแห่งถูกวางเพลิงเผาทำลาย รูปปั้นของมูจิบูร์ เราะห์มาน ประธานาธิบดีคนแรกผู้เป็นบิดาของฮาสินา ตกเป็นเป้าทุบทำลายเพื่อหวังโค้นล่มโดยผู้ประท้วง รัฐบาลต้องสั่งตัดอินเตอร์เน็ตและสัญญามือถือทั่วประเทศชั่วคราว
ด้านประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด ชาฮาบุดดิน ของบังกลาเทศ สั่งปล่อยตัวอดีตนายกรัฐมนตรีคาเลดา เซีย จากเรือนจำ และบรรดานักศึกษาที่ถูกจับกุมคุมขังระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนเรียกประชุมกับผู้นำกองทัพและตัวแทนภาคการเมืองต่างๆ ระบุว่าควรมีการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวในประเทศ ตามหลักประชาธิปไตยที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นแนวทางที่สหรัฐและชาติตะวันตกล้วนออกมาสนับสนุน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในบังกลาเทศ เกิดขึ้นหลังชาวบังกลาเทศจำนวนมากออกมารวมตัวประท้วงในกรุงธากาและอีกหลายเมืองทั่วประเทศช่วงสุดสัปดาห์นี้ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีฮาซีนา ลาออกจากตำแหน่ง ก่อนปะทะกับตำรวจปราบจลาจล ที่ยิงแก๊สน้ำตาและขว้างระเบิดแสงหวังสลายการชุมนุม รวมถึงปะทะกับนักเคลื่อนไหวของพรรคสันนิบาตอวามีของนางฮาซีนา ทั้งในกรุงธากาและอีกหลายพื้นที่ของประเทศ มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน ขณะที่มีรายงานว่าผู้ประท้วงบางส่วน บุกเข้าไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรีในกรุงธากาด้วย
การประท้วงที่เกิดขึ้นถือว่าใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่มีการประท้วงนองเลือดเมื่อนางฮาซีนาชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันเมื่อเดือนมกราคม ในการเลือกตั้งที่ฝ่ายค้านหลักคว่ำบาตรไม่เข้าร่วม ส่วนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีคนในบังกลาเทศเสียชีวิตกว่า 300 ราย บาดเจ็บหลายพันคน และถูกจับกุมประมาณ 10,000 คน จากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการประท้วงนำโดยนักศึกษาที่ไม่พอใจนโยบายกำหนดโควต้าตำแหน่งงานในภาครัฐ.-815.-สำนักข่าวไทย