สิงคโปร์ 1 ส.ค. – องค์การอาหารสิงคโปร์อนุมัติให้แมลง 16 ชนิด สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารได้ ทำให้ร้านอาหารในสิงคโปร์เริ่มเพิ่มเมนูแมลง และมีกระแสตอบรับที่ดี เนื่องจากมีโปรตีนสูง แม้จะมีราคาแพงกว่าไข่ไก่
“เฮ้าส์ ออฟ ซีฟู้ด” (House of Seafood) ภัตตาคารอาหารริมทะเลแถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสิงคโปร์ ถือเป็นร้านแรกในสิงคโปร์ที่มีการเพิ่มแมลงเข้าไปในเมนูอาหาร หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา องค์การอาหารสิงคโปร์ เพิ่งอนุมัติให้แมลง 16 ชนิด ตั้งแต่จิ้งหรีด ด้วง ตั๊กแตน หนอนไหม ไปจนถึงหนอนนก สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารสำหรับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย จากที่องค์การอาหารสิงคโปร์ได้พิจารณาอย่างละเอียดมานานถึง 2 ปี แม้ว่าแมลงต่าง ๆ เหล่านี้ จะมีการรับประทานกันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา แต่ไม่ใช่ในสิงคโปร์ ซึ่งการนำเข้าอาหารมีข้อจำกัดที่เข้มงวด เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย
ด้านเจ้าของร้าน เฮ้าส์ ออฟ ซีฟู้ด เผยว่า เริ่มนำแมลงมาเป็นส่วนผสมในอาหารหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสะเต๊ะ สลัดผัก ข้าวผัด หรือพาสต้า ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า แต่แมลงยังมีราคาสูงกว่าไข่ไก่เสียอีก อีกทั้งปัจจุบัน ยังต้องนำเข้าแมลงจากประเทศไทย และหวังว่าจะเพาะเลี้ยงแมลงในฟาร์มของตนเองได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แมลงทั้งหมดที่ได้รับการอนุมัติให้มนุษย์รับประทานได้ในสิงคโปร์ จะต้องมาจากฟาร์มที่เพาะเลี้ยงภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม และห้ามนำแมลงที่เก็บมาจากป่ามาปรุงอาหาร รวมทั้งต้องไม่มาจากการเพาะเลี้ยงด้วยสารปนเปื้อน เช่น ปุ๋ยคอก หรืออาหารเน่าเสีย
ทั้งนี้ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ เคยให้ข้อมูลว่า แมลงที่นำมาเป็นอาหารหลายชนิดอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน แร่ธาต และใยอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ถือเป็นแหล่งโปรตีนสำหรับมนุษย์ที่ยั่งยืนและมีราคาถูก.-815.-สำนักข่าวไทย