หลายประเทศในยุโรปเผชิญสภาพอากาศร้อนจัด

มาดริด 19 ก.ค. – หลายประเทศในยุโรปกำลังเผชิญกับอากาศร้อนจัดจากคลื่นความร้อนระลอกแรกที่แผ่ปกคลุมในปีนี้


ที่ประเทศสเปน ประชาชนต้องออกไปคลายร้อนกันตามชายทะเลในขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วประเทศมีอุณหภูมิสูงถึง 38 องศาเซลเซียส เมื่อวานนี้ แต่บางพื้นที่อุณหภูมิพุ่งขึ้นไปถึง 40 องศาเซลเซียส รวมทั้งในกรุงมาดริด กระทรวงสาธารณสุขต้องมีคำเตือนประชาชนให้ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด และต้องดูแลสุขสภาพของเด็กและผู้สูงอายุให้มากเป็นพิเศษ

หน่วยงานบริการสภาพาอากาศรายงานว่า คลื่นความร้อนจะแผ่ปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างขึ้นในวันนี้ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจะมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส แต่บางพื้นที่ทางภาคใต้จะสูงถึง 43 องศาเซลเซียส ขณะที่บางพื้นที่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน อาจมีอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียส ในวันพรุ่งนี้ โดยสภาพอากาศร้อนเช่นนี้จะยังอยู่ไปจนถึงกลางสัปดาห์หน้า


ส่วนที่อิตาลีก็เจอกับอากาศร้อนไม่แพ้กัน หลายพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส แต่ถึงจะร้อนแค่ไหนนักท่องเที่ยวก็ยังสู้ไม่ถอย โดยเฉพาะบริเวณน้ำพุเทรวี จุดเช็กอินยอดนิยมในกรุงโรม ยังคงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว หลายต้องใช้ผ้าชุบน้ำลูบตามเนื้อตัวเพื่อคลายความร้อน ขณะที่บางส่วนก็หลบร้อนลงไปเดินชมแหล่งโบราณคดีใต้ดินที่รู้จักกันในชื่อเมืองแห่งน้ำ ซึ่งอยู่ใต้บริเวณน้ำพุเทรวี ลึกลงไปจากถนน 9 เมตร ซึ่งภายในห้องโถงเป็นการบอกเล่าเรื่องราวในอดีตของกรุงโรม.-816.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]