วอชิงตัน 14 ก.ค.- เกิดกระแสสงสัยเรื่องมาตรการอารักขาบุคคลสำคัญในสหรัฐ หลังเกิดเหตุโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐถูกยิงระหว่างหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์
รอยเตอร์รายงานว่า แม้ในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น แต่บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งอังกฤษ หรือบีบีซี (BBC) อ้างการสัมภาษณ์บุคคลหนึ่งที่อ้างว่า พยายามติดต่อตำรวจและหน่วยอารักขา แต่ติดต่อไม่ได้ เพราะต้องการแจ้งว่าเห็นมือปืนซุ่มยิงคนหนึ่งกำลังปีนหลังคา ที่อยู่นอกรัศมีการรักษาความปลอดภัยของสถานที่จัดการปราศรัยหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย
ทรัมป์เป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จึงได้รับความคุ้มครองจากหน่วยอารักขาตลอดชีวิต หน่วยอารักขาเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลความปลอดภัยของเขาตลอดการตระเวนหาเสียง โดยมีตำรวจท้องถิ่นช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยของสถานที่ และมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นในกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ เช่น สำนักงานความปลอดภัยการคมนาคมให้ความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว การรักษาความปลอดภัยในการหาเสียงไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีคนเข้าร่วมงานจำนวนมากในพื้นที่เปิด และกินเวลาหลายชั่วโมง
การปราศรัยหาเสียงเมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาระเบิดและอันตรายต่าง ๆ ในสถานที่จัดงาน กั้นรั้วจำกัดรัศมีการรักษาความปลอดภัย ใช้เครื่องตรวจโลหะ กระเป๋า และตบตามลำตัวของผู้เข้างาน จากนั้นทรัมป์ได้มาถึงงานด้วยขบวนรถหุ้มเกราะ หน่วยอารักขาแถลงว่า มือปืนซึ่งอยู่นอกรัศมีการรักษาความปลอดภัยถูกยิงเสียชีวิต หลังจากมือปืนทำให้มีผู้เข้างานเสียชีวิต 1 คน ได้รับบาดเจ็บ 2 คน สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐได้เข้ามารับหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการสอบสวนแล้ว โดยถือเป็นคดีพยายามลอบสังหาร ซีเอ็นเอ็น (CNN) อ้างแหล่งข่าวว่า เอฟบีไอระบุตัวคนร้ายว่า เป็นชายชาวเพนซิลเวเนียวัย 20 ปี
ขณะเดียวกันตำรวจในนครนิวยอร์กได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ในคืนวันเดียวกัน โดยมีกำลังตำรวจในเครื่องแบบพร้อมสุนัขตำรวจลาดตระเวนอยู่หน้าทางเข้าหลักของอาคารที่อยู่บนถนนฟิฟธ์ อเวนิวในย่านแมตฮัตตัน.-814.-สำนักข่าวไทย