วอชิงตัน 12 ก.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เรียกชื่อผิด โดยเรียกรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เป็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน เมื่อวานนี้ แต่เขาก็ยังคงยืนยันว่า เขาจะเดินหน้าเพื่อให้ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย แม้ว่าจะมีเพื่อนสมาชิกพรรคเดโมแครตเพิ่มอีกหลายคนที่ขอให้เขาถอนตัวจากการเลือกตั้ง
นายไบเดน วัย 81 ปี ยืนยันถึงประสบการณ์หลายสิบปีของเขาบนเวทีโลก พร้อมกับโต้แย้งกระแสเรียกร้องให้เขายุติการหาเสียงเลือกตั้งว่า เขาเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะที่จะสามารถเอาชนะนายทรัมป์ วัย 78 ปีได้และเป็นผู้นำสหรัฐได้อีก 1 สมัยเป็นระยะเวลาอีก 4 ปี นายไบเดน ซึ่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์กล่าวด้วยว่า สิ่งเดียวที่อายุจะเป็นประโยชน์คือช่วยสร้างภูมิปัญญาให้มากขึ้น
นับตั้งแต่นายไบเดน สร้างผลงานได้ไม่ดีในการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ประชันกับนายทรัมป์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เขาก็เผชิญกับความสงสัยไม่มั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ จากผู้บริจาคเงินสนับสนุนพรรคเดโมแครต ผู้สมับสนุนและพื่อนสมาชิกพรรคเดโมแครตว่า เขาจะสามารถชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที 5 พฤศจิกายนนี้ได้หรือไม่ และจะสามารถทำงานที่หนักในตำแหน่งผู้นำประเทศได้หรือไม่ ล่าสุดในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ นายไบเดน ก็เกิดสับสนเรียกรองประธานาธิบดีแฮร์ริสว่า รองประธานาธิบดีทรัมป์ และก่อนหน้านี้ เขาก็เรียกประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนว่า ปะธานาธบดีปูติน ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำชาติสมาชิกนาโต ที่กรุงวอชิงตัน
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างน้อย 16 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 213 คน ในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก 1 คน จาก 51 คนของพรรคเดโมแครต กล่าวเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้นายไบเดน ถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นายไบเดน ซึ่งเคยพูดติดอ่างสมัยยังเป็นเด็ก และมักจะเรียกชื่อผิดและพูดผิดตลอดอาชีพทางการเมืองของเขา แต่นายไบเดนกล่าวว่า เขามีสุขภาพดีและจะเข้ารับการตรวจระบบประสาทอีกครั้ง เพื่ดดูความเฉียบแหลมทางจิตใจ (mental acuity) หากว่าได้รับคำแนะนำจากแพทย์.-813.-สำนักข่าวไทย