ฟิลิปปินส์ว่าเรือยามฝั่งใหญ่ของจีนทอดสมอในทะเลจีนใต้

มะนิลา 6 ม.ค. –  หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ หรือ พีซีจี กล่าววันนี้ว่า เรือใหญ่ที่สุดของหน่วยยามฝั่งของจีนมาทอดสมออยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ อีอีซี ของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ และการกระทำของจีนมีป้าหมายเพื่อข่มขู่ฟิลิปปินส์


โฆษกพีซีจี กล่าวว่า เรือยามฝั่งจีนขนาดความยาว 165 เมตร ที่ฟิลิปปินส์เรียกว่าเป็นเรือปีศาจ เข้ามาในเขตอีอีซี 200 ไมล์ทะเลของฟิลิปปินส์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา  ซึ่งพีซีจี ได้เตือนเรือของจีนว่า บริเวณดังกล่าวเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์และสอบถามเรือจีนเกี่ยวกับเจตนาในการเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว โฆษกพีซีจี กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการช่มขู่ฟิลิปปินส์ ซึ่งฟิลิปปินส์จะไม่ยอมให้มีการข่มขู่เช่นนี้ เขากล่าวด้วยว่า เรือจีนลำดังกล่าวทอดสมออยู่ห่างจากเรือของพีซีจีประมาณ 730 เมตร และยังปล่อยเรือขนาดเล็กลงในทะเลด้วย

ก่อนหน้านี้ฟิลิปปินส์กล่าวว่า ได้ปฎิเสธข้อเสนอของสหรัฐในการช่วยเหลือปฎิบัติการในทะเลจีนใต้ แม้ความขัดแย้งจะปะทุขึ้นระหว่างฟิลิปปินส์เกี่ยวกับภารกิจการจัดส่งเสบียงให้ทหารฟิลิปปินส์ที่ประจำการในแนวหินปะการังที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างสิทธิความเป็นเจ้าของ.-813.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]