นิวยอร์ก 18 ส.ค.- เว็บไซต์เอ็นบีซีนิวส์ของสหรัฐชี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายที่อ้างศาสนาอิสลามได้ก่อเหตุในสเปนมาตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่ก่อเหตุทั่วโลก รวมถึงเหตุก่อการร้ายล่าสุดที่เมืองบาร์เซโลนา เมื่อวานนี้
เอ็นบีซีนิวส์ระบุว่า วันที่ 11 มีนาคม 2547 กรุงมาดริดของสเปนเกิดเหตุร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในยุโรปเมื่อกลุ่มก่อการร้ายปลดชนวนระเบิด 10 ลูกบนขบวนรถไฟโดยสาร 4 ขบวนภายในเวลาเพียง 4 นาที ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึงเกือบ 200 คน ผลการสอบสวนที่กินเวลานาน 2 ปีสรุปว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอ้างศาสนาอิสลามในประเทศ จากเดิมที่รัฐบาลกล่าวโทษเอตา ซึ่งเป็นกลุ่มแยกดินแดนแคว้นบาสก์ ทางตอนเหนือของประเทศ ส่วนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อนทางการสเปนประกาศว่า สามารถทำลายกลุ่มหัวรุนแรงโยงใยกับกลุ่มรัฐอิสลามที่วางแผนจะก่อเหตุร้ายในกรุงมาดริด ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ทางการยึดได้อาวุธจำนวนมากที่จะลำเลียงไปให้กลุ่มก่อการร้าย
สำหรับเหตุคนร้ายขับรถตู้พุ่งชนคนบนถนนลารัมบลา ใจกลางเมืองบาร์เซโลนา มีผู้เสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บกว่าร้อยคนเมื่อเย็นวานนี้ เอ็นบีซีนิวส์ระบุว่า เกิดขึ้นในแคว้นกาตาโลเนียหรือกาตาลุญญา ซึ่งเป็นแคว้นปกครองตนเอง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ แคว้นนี้มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องแยกตัวเป็นเอกราชแต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองและวัฒนธรรม ไม่เคยใช้ความรุนแรงมาก่อน ชาวกาตาลันร้อยละ 80 สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชในการลงประชามติปี 2557 แต่รัฐบาลกลางชี้ว่า เป็นการลงประชามติที่ขัดรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี พวกเขาพยายามต่อสู้ให้มีการลงประชามติครั้งใหม่ในเดือนตุลาคมนี้.- สำนักข่าวไทย