“สี จิ้นผิง”- “ปูติน” แจง 5 หลักการหนุนสัมพันธ์จีน-รัสเซีย

ปักกิ่ง 17 พ.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ร่วมพบปะสื่อมวลชน ณ กรุงปักกิ่งของจีนพบปะเจรจากันที่กรุงปักกิ่งของจีนเมื่อวานนี้


สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายสีกล่าวต้อนรับนายปูตินอย่างอบอุ่น พร้อมชี้ว่าการเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ของนายปูตินถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่นายปูตินเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 1 สมัย รวมถึงสะท้อนว่าปูตินและฝ่ายรัสเซียให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างมาก

นายสีและนายปูตินได้ข้อสรุปจากการประชุมหารืออย่างฉันมิตรและจริงใจในหลายประเด็น โดยมีการทบทวนประสบการณ์ความสำเร็จในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ตลอด 75 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การสถาปนาสายสัมพันธ์ทางการทูต แลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกที่มีต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและประเด็นสำคัญอันเป็นผลประโยชน์ร่วมกันในระดับนานาชาติและภูมิภาค และกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างจีน-รัสเซียในทุกภาคส่วน


นอกจากนั้นนายสีและนายปูตินยังลงนามและออกแถลงการณ์ร่วมจีนและรัสเซียว่าด้วยการกระชับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านของความร่วมมือในยุคใหม่ภายใต้บริบทวาระครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-รัสเซีย และเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือสำคัญระหว่างรัฐบาลและระหว่างหน่วยงานหลายฉบับ ซึ่งจะอัดฉีดแรงกระตุ้นใหม่อันแข็งแกร่งสู่การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย

นายสีกล่าวว่าตลอด 75 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นท่ามกลางคลื่นลมพายุ ขณะตั้งแต่เข้าสู่ยุคใหม่ มีการยกระดับความสัมพันธ์ดังกล่าว ส่งเสริมความร่วมมือเพิ่มเติม และกระชับมิตรภาพเก่าแก่ให้หยั่งรากลึกในใจของประชาชนสองประเทศยิ่งขึ้น โดยความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย กลายเป็นตัวอย่างอันดีของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบใหม่ รวมถึงความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านที่ดีระหว่างสองประเทศใหญ่ ซึ่งความก้าวหน้าโดดเด่นของความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย เป็นผลจากทั้งสองประเทศยึดมั่นหลักการ 5 ข้อ

หลักการข้อที่ 1 จีนและรัสเซียยึดมั่นการเคารพซึ่งกันและกันเป็นหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์และสนับสนุนผลประโยชน์หลักของอีกฝ่ายเสมอมา โดยประธานาธิบดีทั้งสองเห็นพ้องว่ากุญแจของสองประเทศในการแสวงหาวิถีทางใหม่ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ที่เป็นเพื่อนบ้านกันคือการเคารพซึ่งกันและกันและความเท่าเทียม รวมถึงการสนับสนุนประเด็นอันเกี่ยวพันกับผลประโยชน์หลักและข้อวิตกกังวลของอีกฝ่าย นี่เป็นแกนกลางของความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านของความร่วมมือจีน-รัสเซียในยุคใหม่


จีนและรัสเซียจะเดินหน้ายึดมั่นหลักการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ปะทะคะคาน และไม่มุ่งเป้าไปยังบุคคลที่สาม ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองแบบสองทาง เคารพการเลือกวิถีทางการพัฒนาของอีกฝ่าย และบรรลุการพัฒนาและการฟื้นฟูด้วยแรงสนับสนุนจากอีกฝ่าย

หลักการข้อที่ 2 จีนและรัสเซียยึดมั่นความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์เป็นพลังขับเคลื่อนความสัมพันธ์และเสริมสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของผลประโยชน์ร่วม โดยการค้าสองทางในปี 2023 สูงเกิน 2 แสน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.66 ล้านล้านบาท) สูงขึ้นจากทศวรรษก่อนเกือบ 2.7 เท่า นี่เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของความร่วมมือรอบด้านเพื่อผลประโยชน์ร่วมระหว่างสองประเทศ และประธานาธิบดีทั้งสองเห็นพ้องว่าทั้งสองประเทศต้องแสวงหาจุดที่ผลประโยชน์บรรจบกัน ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่เทียบเคียงกันได้ กระชับการบูรณาการผลประโยชน์ และช่วยให้อีกฝ่ายประสบผลสำเร็จ

จีนและรัสเซียต้องปรับปรุงโครงสร้างความร่วมมือเพิ่มเติม เสริมสร้างทิศทางอันดีของการค้าและความร่วมมือดั้งเดิมอื่นๆ สนับสนุนการจัดตั้งแพลตฟอร์มและเครือข่ายการวิจัยขั้นพื้นฐาน เดินหน้าปลดล็อกศักยภาพความร่วมมือแนวหน้า ยกระดับความร่วมมือด้านท่าด่าน การขนส่ง และโลจิสติกส์ และช่วยรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

หลักการข้อที่ 3 จีนและรัสเซียยึดมั่นมิตรภาพเก่าแก่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์และสานต่อมิตรภาพจีน-รัสเซีย โดยทั้งจีนและรัสเซียมีประวัติศาสตร์เก่าแก่และวัฒนธรรมงดงาม ผลงานของพุชกินและตอลสตอยนั้นเป็นที่รู้จักดีในจีน ขณะอุปรากรปักกิ่งและมวยไทเก๊กนั้นเป็นที่ชื่นชอบของชาวรัสเซีย ทั้งสองประเทศกำลังขยับขยายสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชน โดยมุ่งเน้นการดำเนินการตามแผนงานความร่วมมือจีน-รัสเซียว่าด้วยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชนก่อนปี 2030

ประธานาธิบดีทั้งสองได้กำหนดให้ปี 2024 และ 2025 เป็นปีแห่งวัฒนธรรมจีน-รัสเซีย เสนอกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรม ใกล้ตัวประชาชน และเป็นที่นิยม พร้อมกระตุ้นการมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างภาคส่วนต่างๆ และระดับท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันและความผูกพันระหว่างประชาชน

หลักการข้อที่ 4 จีนและรัสเซียยึดมั่นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เป็นเสาค้ำจุนความสัมพันธ์และกำหนดทิศทางที่ถูกต้องของธรรมาภิบาลโลก โดยทั้งสองประเทศมุ่งมั่นคุ้มครองระบบระหว่างประเทศอันมีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลางและระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎหมายระหว่างประเทศเป็นฐานรับรอง จีนและรัสเซียร่วมมือและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดบนเวทีพหุภาคีต่างๆ เช่น สหประชาชาติ เอเปก และจี20 พร้อมเดินหน้าระบบหลายขั้วอำนาจและโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจด้วยจิตวิญญาณแห่งพหุภาคีที่แท้จริง

จีนจะสนับสนุนรัสเซียในการเป็นประธานกลุ่มประเทศบริกส์ในปีนี้ และรัสเซียจะสนับสนุนจีนในการเป็นประธานองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ในปีนี้เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายจะร่วมสร้างความเป็นหุ้นส่วนคุณภาพสูงที่รอบด้าน ใกล้ชิด เป็นรูปธรรม และครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ตลอดจนร่วมสร้างความสามัคคีและความแข็งแกร่งของโลกใต้ (Global South)

หลักการข้อที่ 5 จีนและรัสเซียยึดมั่นความเป็นธรรมและความยุติธรรมเป็นเป้าประสงค์ของความสัมพันธ์และสนับสนุนการสร้างข้อตกลงทางการเมืองในประเด็นร้อน โดยยามแนวคิดสงครามเย็นยังไม่จางหาย และลัทธิกระทำฝ่ายเดียว ลัทธิอำนาจนำ การเผชิญหน้าแบบแบ่งพรรคแบ่งพวก และการเมืองเชิงอำนาจคุกคามสันติภาพโลกและความมั่นคงของทุกประเทศ ประธานาธิบดีทั้งสองมองว่าการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งปาเลสไตน์-อิสราเอลถือเป็นเรื่องเร่งด่วน การดำเนินการตามมติของสหประชาชาติเป็นเรื่องจำเป็น และปัญหาปาเลสไตน์ต้องแก้ไขบนพื้นฐานแนวทางสองรัฐ

จีนและรัสเซียเชื่อว่าการสร้างข้อตกลงทางการเมืองเป็นวิถีทางอันถูกต้องของวิกฤตยูเครน โดยจุดยืนของจีนต่อประเด็นนี้ยังคงเดิมและชัดเจน ได้แก่ การยึดมั่นเจตจำนงและหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ เคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ เคารพข้อคำนึงด้านความมั่นคงตามกฎหมายของทุกฝ่าย และสร้างสถาปัตยกรรมความมั่นคงใหม่ที่มีสมดุล ประสิทธิภาพ และยั่งยืน จีนหวังว่าสันติภาพและความมั่นคงจะกลับคืนสู่ทวีปยุโรปในเร็ววัน และพร้อมมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อบรรลุสิ่งดังกล่าว

นายสี ทิ้งท้ายว่ามิตรภาพเก่าแก่และความร่วมมือรอบด้านระหว่างจีนและรัสเซียเป็นแรงผลักดันสองประเทศฟันฝ่าคลื่นลมพายุ โดยจีนและรัสเซียจะยังคงยึดมั่นเป้าประสงค์ตั้งต้นและร่วมกันแสดงความรับผิดชอบเพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์แก่ประชาชน รวมถึงมีส่วนส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงของโลกต่อไป.-813.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]

จนท.ห้ามล่าสัตว์ป่า หายตัวปริศนา 3 วัน หลังไปขายลอตเตอรี่

อุทัยธานี 14 ก.ย.- แม่เศร้าลูกชาย ซึ่งเป็น จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา หายตัวปริศนา 3 วัน หลังออกเวรไปเร่ขายลอตเตอรี่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังติดต่อไม่ได้ นางจำรัส อายุ 57 ปี ชาวบ้านบึงเจริญ หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นำเบาะแส เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มอบให้สื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการตามหาลูกชาย คือนายเอกฉัตร อายุ 39 ปี ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ต.ระบำ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 วัน โดยภาพวงจรปิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเอกฉัตรนำแผงลอตเตอรี่มาขาย ที่ร้านของชำของแม่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงออกไป กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 กันยายน กล้องอีกจุดจับภาพนายเอกฉัตร ขี่รถจักรยานยนต์ สีเขียว ทะเบียน 1ขอ […]

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี

14 ก.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับนายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี นายวิเนตร อายุ 28 ปี และนายธีรวุฒิ อายุ 34 ปี ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางหลายรายการ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเครือข่ายเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ผู้กู้ไม่ต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โอนเงินให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ไปบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรก และงวดสุดท้ายไว้ก่อน หากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะไประรานลูกหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย. -สำนักข่าวไทย

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย กกต.คาดรู้ผลก่อน 3 ทุ่ม

เชียงราย 14 ก.ย.- กกต. คาดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย 65% เหตุอากาศเป็นใจ พบประชาชนตื่นตัวมารอใช้สิทธิแต่เช้า รู้ผลก่อน 3 ทุ่มคืนนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมารอใช้สิทธิทั้ง 2 หน่วยภายในโรงเรียนบ้านสบคา ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเป็นใจท้องฟ้าปลอดโปร่ง หากเป็นไปเช่นนี้จะมีส่วนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อากาศเอื้ออำนวยในการออกเสียงเลือกตั้งวันนี้ ซึ่งมีตั้งเป้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 65 แม้จะเป็นงานยาก เพราะมีเงื่อนไขในเรื่องของกำหนดเวลายุบสภา แต่ด้วยความร่วมมือของทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัคร และทางจังหวัดเชียงราย กกต.จังหวัดเชียงราย คาดว่าตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิจะใกล้เคียงเป้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ สำหรับรายงานผล เมื่อปิดหน่วยในเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะมีการตรวจบัตรและนับคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น. ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยระบุว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของชาวจังหวัดเชียงราย และเลขา กกต.ได้มาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ เลือกคนดีเข้าสภาเป็นหน้าที่ของชาวจังหวัดเชียงราย […]