“สี จิ้นผิง”- “ปูติน” แจง 5 หลักการหนุนสัมพันธ์จีน-รัสเซีย

ปักกิ่ง 17 พ.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ร่วมพบปะสื่อมวลชน ณ กรุงปักกิ่งของจีนพบปะเจรจากันที่กรุงปักกิ่งของจีนเมื่อวานนี้


สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายสีกล่าวต้อนรับนายปูตินอย่างอบอุ่น พร้อมชี้ว่าการเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ของนายปูตินถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่นายปูตินเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 1 สมัย รวมถึงสะท้อนว่าปูตินและฝ่ายรัสเซียให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างมาก

นายสีและนายปูตินได้ข้อสรุปจากการประชุมหารืออย่างฉันมิตรและจริงใจในหลายประเด็น โดยมีการทบทวนประสบการณ์ความสำเร็จในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ตลอด 75 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การสถาปนาสายสัมพันธ์ทางการทูต แลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกที่มีต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและประเด็นสำคัญอันเป็นผลประโยชน์ร่วมกันในระดับนานาชาติและภูมิภาค และกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างจีน-รัสเซียในทุกภาคส่วน


นอกจากนั้นนายสีและนายปูตินยังลงนามและออกแถลงการณ์ร่วมจีนและรัสเซียว่าด้วยการกระชับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านของความร่วมมือในยุคใหม่ภายใต้บริบทวาระครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-รัสเซีย และเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือสำคัญระหว่างรัฐบาลและระหว่างหน่วยงานหลายฉบับ ซึ่งจะอัดฉีดแรงกระตุ้นใหม่อันแข็งแกร่งสู่การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย

นายสีกล่าวว่าตลอด 75 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นท่ามกลางคลื่นลมพายุ ขณะตั้งแต่เข้าสู่ยุคใหม่ มีการยกระดับความสัมพันธ์ดังกล่าว ส่งเสริมความร่วมมือเพิ่มเติม และกระชับมิตรภาพเก่าแก่ให้หยั่งรากลึกในใจของประชาชนสองประเทศยิ่งขึ้น โดยความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย กลายเป็นตัวอย่างอันดีของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบใหม่ รวมถึงความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านที่ดีระหว่างสองประเทศใหญ่ ซึ่งความก้าวหน้าโดดเด่นของความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย เป็นผลจากทั้งสองประเทศยึดมั่นหลักการ 5 ข้อ

หลักการข้อที่ 1 จีนและรัสเซียยึดมั่นการเคารพซึ่งกันและกันเป็นหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์และสนับสนุนผลประโยชน์หลักของอีกฝ่ายเสมอมา โดยประธานาธิบดีทั้งสองเห็นพ้องว่ากุญแจของสองประเทศในการแสวงหาวิถีทางใหม่ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ที่เป็นเพื่อนบ้านกันคือการเคารพซึ่งกันและกันและความเท่าเทียม รวมถึงการสนับสนุนประเด็นอันเกี่ยวพันกับผลประโยชน์หลักและข้อวิตกกังวลของอีกฝ่าย นี่เป็นแกนกลางของความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านของความร่วมมือจีน-รัสเซียในยุคใหม่


จีนและรัสเซียจะเดินหน้ายึดมั่นหลักการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ปะทะคะคาน และไม่มุ่งเป้าไปยังบุคคลที่สาม ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองแบบสองทาง เคารพการเลือกวิถีทางการพัฒนาของอีกฝ่าย และบรรลุการพัฒนาและการฟื้นฟูด้วยแรงสนับสนุนจากอีกฝ่าย

หลักการข้อที่ 2 จีนและรัสเซียยึดมั่นความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์เป็นพลังขับเคลื่อนความสัมพันธ์และเสริมสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของผลประโยชน์ร่วม โดยการค้าสองทางในปี 2023 สูงเกิน 2 แสน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.66 ล้านล้านบาท) สูงขึ้นจากทศวรรษก่อนเกือบ 2.7 เท่า นี่เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของความร่วมมือรอบด้านเพื่อผลประโยชน์ร่วมระหว่างสองประเทศ และประธานาธิบดีทั้งสองเห็นพ้องว่าทั้งสองประเทศต้องแสวงหาจุดที่ผลประโยชน์บรรจบกัน ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่เทียบเคียงกันได้ กระชับการบูรณาการผลประโยชน์ และช่วยให้อีกฝ่ายประสบผลสำเร็จ

จีนและรัสเซียต้องปรับปรุงโครงสร้างความร่วมมือเพิ่มเติม เสริมสร้างทิศทางอันดีของการค้าและความร่วมมือดั้งเดิมอื่นๆ สนับสนุนการจัดตั้งแพลตฟอร์มและเครือข่ายการวิจัยขั้นพื้นฐาน เดินหน้าปลดล็อกศักยภาพความร่วมมือแนวหน้า ยกระดับความร่วมมือด้านท่าด่าน การขนส่ง และโลจิสติกส์ และช่วยรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

หลักการข้อที่ 3 จีนและรัสเซียยึดมั่นมิตรภาพเก่าแก่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์และสานต่อมิตรภาพจีน-รัสเซีย โดยทั้งจีนและรัสเซียมีประวัติศาสตร์เก่าแก่และวัฒนธรรมงดงาม ผลงานของพุชกินและตอลสตอยนั้นเป็นที่รู้จักดีในจีน ขณะอุปรากรปักกิ่งและมวยไทเก๊กนั้นเป็นที่ชื่นชอบของชาวรัสเซีย ทั้งสองประเทศกำลังขยับขยายสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชน โดยมุ่งเน้นการดำเนินการตามแผนงานความร่วมมือจีน-รัสเซียว่าด้วยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชนก่อนปี 2030

ประธานาธิบดีทั้งสองได้กำหนดให้ปี 2024 และ 2025 เป็นปีแห่งวัฒนธรรมจีน-รัสเซีย เสนอกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรม ใกล้ตัวประชาชน และเป็นที่นิยม พร้อมกระตุ้นการมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างภาคส่วนต่างๆ และระดับท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันและความผูกพันระหว่างประชาชน

หลักการข้อที่ 4 จีนและรัสเซียยึดมั่นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เป็นเสาค้ำจุนความสัมพันธ์และกำหนดทิศทางที่ถูกต้องของธรรมาภิบาลโลก โดยทั้งสองประเทศมุ่งมั่นคุ้มครองระบบระหว่างประเทศอันมีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลางและระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎหมายระหว่างประเทศเป็นฐานรับรอง จีนและรัสเซียร่วมมือและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดบนเวทีพหุภาคีต่างๆ เช่น สหประชาชาติ เอเปก และจี20 พร้อมเดินหน้าระบบหลายขั้วอำนาจและโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจด้วยจิตวิญญาณแห่งพหุภาคีที่แท้จริง

จีนจะสนับสนุนรัสเซียในการเป็นประธานกลุ่มประเทศบริกส์ในปีนี้ และรัสเซียจะสนับสนุนจีนในการเป็นประธานองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ในปีนี้เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายจะร่วมสร้างความเป็นหุ้นส่วนคุณภาพสูงที่รอบด้าน ใกล้ชิด เป็นรูปธรรม และครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ตลอดจนร่วมสร้างความสามัคคีและความแข็งแกร่งของโลกใต้ (Global South)

หลักการข้อที่ 5 จีนและรัสเซียยึดมั่นความเป็นธรรมและความยุติธรรมเป็นเป้าประสงค์ของความสัมพันธ์และสนับสนุนการสร้างข้อตกลงทางการเมืองในประเด็นร้อน โดยยามแนวคิดสงครามเย็นยังไม่จางหาย และลัทธิกระทำฝ่ายเดียว ลัทธิอำนาจนำ การเผชิญหน้าแบบแบ่งพรรคแบ่งพวก และการเมืองเชิงอำนาจคุกคามสันติภาพโลกและความมั่นคงของทุกประเทศ ประธานาธิบดีทั้งสองมองว่าการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งปาเลสไตน์-อิสราเอลถือเป็นเรื่องเร่งด่วน การดำเนินการตามมติของสหประชาชาติเป็นเรื่องจำเป็น และปัญหาปาเลสไตน์ต้องแก้ไขบนพื้นฐานแนวทางสองรัฐ

จีนและรัสเซียเชื่อว่าการสร้างข้อตกลงทางการเมืองเป็นวิถีทางอันถูกต้องของวิกฤตยูเครน โดยจุดยืนของจีนต่อประเด็นนี้ยังคงเดิมและชัดเจน ได้แก่ การยึดมั่นเจตจำนงและหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ เคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ เคารพข้อคำนึงด้านความมั่นคงตามกฎหมายของทุกฝ่าย และสร้างสถาปัตยกรรมความมั่นคงใหม่ที่มีสมดุล ประสิทธิภาพ และยั่งยืน จีนหวังว่าสันติภาพและความมั่นคงจะกลับคืนสู่ทวีปยุโรปในเร็ววัน และพร้อมมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อบรรลุสิ่งดังกล่าว

นายสี ทิ้งท้ายว่ามิตรภาพเก่าแก่และความร่วมมือรอบด้านระหว่างจีนและรัสเซียเป็นแรงผลักดันสองประเทศฟันฝ่าคลื่นลมพายุ โดยจีนและรัสเซียจะยังคงยึดมั่นเป้าประสงค์ตั้งต้นและร่วมกันแสดงความรับผิดชอบเพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์แก่ประชาชน รวมถึงมีส่วนส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงของโลกต่อไป.-813.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

RBC ไทย-กัมพูชา (ทภ.1) เห็นพ้อง 13 ข้อหยุดยิง ตอบรับเพิ่ม 3 ประเด็น

สระแก้ว 22 ส.ค.- ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง GBC ฝ่ายกัมพูชา ตอบรับ 3 ข้อเสนอ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ตั้งชุดประสานงานร่วม แต่ไม่ตอบรับแก้ปัญหา MOU 43 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ RBC โยนถกวง JBC แทน พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทยเสนอ 4 ประเด็น คือ […]

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1

สระแก้ว 22 ส.ค.-เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 รอผล “กัมพูชา” ตอบรับ 3 ข้อ เวลา 10.00 น. ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 เริ่มแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทยนำโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอกแอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 โดยจะใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงต้นได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนเชิญออกเพื่อเข้าสู่วาระการประชุม ทั้งนี้ รายงานข่าวยืนยันว่า ในวงประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือ 13 + 3 ข้อตกลง คือ 13 ข้อจากเดิม GBC เพื่อนำสู่การปฏิบัติ และข้อเสนอใหม่ ของฝ่ายไทย 3 […]

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย