“สี จิ้นผิง”- “ปูติน” แจง 5 หลักการหนุนสัมพันธ์จีน-รัสเซีย

ปักกิ่ง 17 พ.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ร่วมพบปะสื่อมวลชน ณ กรุงปักกิ่งของจีนพบปะเจรจากันที่กรุงปักกิ่งของจีนเมื่อวานนี้


สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายสีกล่าวต้อนรับนายปูตินอย่างอบอุ่น พร้อมชี้ว่าการเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ของนายปูตินถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่นายปูตินเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 1 สมัย รวมถึงสะท้อนว่าปูตินและฝ่ายรัสเซียให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างมาก

นายสีและนายปูตินได้ข้อสรุปจากการประชุมหารืออย่างฉันมิตรและจริงใจในหลายประเด็น โดยมีการทบทวนประสบการณ์ความสำเร็จในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ตลอด 75 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การสถาปนาสายสัมพันธ์ทางการทูต แลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกที่มีต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและประเด็นสำคัญอันเป็นผลประโยชน์ร่วมกันในระดับนานาชาติและภูมิภาค และกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างจีน-รัสเซียในทุกภาคส่วน


นอกจากนั้นนายสีและนายปูตินยังลงนามและออกแถลงการณ์ร่วมจีนและรัสเซียว่าด้วยการกระชับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านของความร่วมมือในยุคใหม่ภายใต้บริบทวาระครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-รัสเซีย และเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือสำคัญระหว่างรัฐบาลและระหว่างหน่วยงานหลายฉบับ ซึ่งจะอัดฉีดแรงกระตุ้นใหม่อันแข็งแกร่งสู่การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย

นายสีกล่าวว่าตลอด 75 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นท่ามกลางคลื่นลมพายุ ขณะตั้งแต่เข้าสู่ยุคใหม่ มีการยกระดับความสัมพันธ์ดังกล่าว ส่งเสริมความร่วมมือเพิ่มเติม และกระชับมิตรภาพเก่าแก่ให้หยั่งรากลึกในใจของประชาชนสองประเทศยิ่งขึ้น โดยความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย กลายเป็นตัวอย่างอันดีของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบใหม่ รวมถึงความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านที่ดีระหว่างสองประเทศใหญ่ ซึ่งความก้าวหน้าโดดเด่นของความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย เป็นผลจากทั้งสองประเทศยึดมั่นหลักการ 5 ข้อ

หลักการข้อที่ 1 จีนและรัสเซียยึดมั่นการเคารพซึ่งกันและกันเป็นหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์และสนับสนุนผลประโยชน์หลักของอีกฝ่ายเสมอมา โดยประธานาธิบดีทั้งสองเห็นพ้องว่ากุญแจของสองประเทศในการแสวงหาวิถีทางใหม่ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ที่เป็นเพื่อนบ้านกันคือการเคารพซึ่งกันและกันและความเท่าเทียม รวมถึงการสนับสนุนประเด็นอันเกี่ยวพันกับผลประโยชน์หลักและข้อวิตกกังวลของอีกฝ่าย นี่เป็นแกนกลางของความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านของความร่วมมือจีน-รัสเซียในยุคใหม่


จีนและรัสเซียจะเดินหน้ายึดมั่นหลักการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ปะทะคะคาน และไม่มุ่งเป้าไปยังบุคคลที่สาม ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองแบบสองทาง เคารพการเลือกวิถีทางการพัฒนาของอีกฝ่าย และบรรลุการพัฒนาและการฟื้นฟูด้วยแรงสนับสนุนจากอีกฝ่าย

หลักการข้อที่ 2 จีนและรัสเซียยึดมั่นความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์เป็นพลังขับเคลื่อนความสัมพันธ์และเสริมสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของผลประโยชน์ร่วม โดยการค้าสองทางในปี 2023 สูงเกิน 2 แสน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.66 ล้านล้านบาท) สูงขึ้นจากทศวรรษก่อนเกือบ 2.7 เท่า นี่เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของความร่วมมือรอบด้านเพื่อผลประโยชน์ร่วมระหว่างสองประเทศ และประธานาธิบดีทั้งสองเห็นพ้องว่าทั้งสองประเทศต้องแสวงหาจุดที่ผลประโยชน์บรรจบกัน ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่เทียบเคียงกันได้ กระชับการบูรณาการผลประโยชน์ และช่วยให้อีกฝ่ายประสบผลสำเร็จ

จีนและรัสเซียต้องปรับปรุงโครงสร้างความร่วมมือเพิ่มเติม เสริมสร้างทิศทางอันดีของการค้าและความร่วมมือดั้งเดิมอื่นๆ สนับสนุนการจัดตั้งแพลตฟอร์มและเครือข่ายการวิจัยขั้นพื้นฐาน เดินหน้าปลดล็อกศักยภาพความร่วมมือแนวหน้า ยกระดับความร่วมมือด้านท่าด่าน การขนส่ง และโลจิสติกส์ และช่วยรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

หลักการข้อที่ 3 จีนและรัสเซียยึดมั่นมิตรภาพเก่าแก่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์และสานต่อมิตรภาพจีน-รัสเซีย โดยทั้งจีนและรัสเซียมีประวัติศาสตร์เก่าแก่และวัฒนธรรมงดงาม ผลงานของพุชกินและตอลสตอยนั้นเป็นที่รู้จักดีในจีน ขณะอุปรากรปักกิ่งและมวยไทเก๊กนั้นเป็นที่ชื่นชอบของชาวรัสเซีย ทั้งสองประเทศกำลังขยับขยายสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชน โดยมุ่งเน้นการดำเนินการตามแผนงานความร่วมมือจีน-รัสเซียว่าด้วยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชนก่อนปี 2030

ประธานาธิบดีทั้งสองได้กำหนดให้ปี 2024 และ 2025 เป็นปีแห่งวัฒนธรรมจีน-รัสเซีย เสนอกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรม ใกล้ตัวประชาชน และเป็นที่นิยม พร้อมกระตุ้นการมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างภาคส่วนต่างๆ และระดับท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันและความผูกพันระหว่างประชาชน

หลักการข้อที่ 4 จีนและรัสเซียยึดมั่นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เป็นเสาค้ำจุนความสัมพันธ์และกำหนดทิศทางที่ถูกต้องของธรรมาภิบาลโลก โดยทั้งสองประเทศมุ่งมั่นคุ้มครองระบบระหว่างประเทศอันมีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลางและระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎหมายระหว่างประเทศเป็นฐานรับรอง จีนและรัสเซียร่วมมือและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดบนเวทีพหุภาคีต่างๆ เช่น สหประชาชาติ เอเปก และจี20 พร้อมเดินหน้าระบบหลายขั้วอำนาจและโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจด้วยจิตวิญญาณแห่งพหุภาคีที่แท้จริง

จีนจะสนับสนุนรัสเซียในการเป็นประธานกลุ่มประเทศบริกส์ในปีนี้ และรัสเซียจะสนับสนุนจีนในการเป็นประธานองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ในปีนี้เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายจะร่วมสร้างความเป็นหุ้นส่วนคุณภาพสูงที่รอบด้าน ใกล้ชิด เป็นรูปธรรม และครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ตลอดจนร่วมสร้างความสามัคคีและความแข็งแกร่งของโลกใต้ (Global South)

หลักการข้อที่ 5 จีนและรัสเซียยึดมั่นความเป็นธรรมและความยุติธรรมเป็นเป้าประสงค์ของความสัมพันธ์และสนับสนุนการสร้างข้อตกลงทางการเมืองในประเด็นร้อน โดยยามแนวคิดสงครามเย็นยังไม่จางหาย และลัทธิกระทำฝ่ายเดียว ลัทธิอำนาจนำ การเผชิญหน้าแบบแบ่งพรรคแบ่งพวก และการเมืองเชิงอำนาจคุกคามสันติภาพโลกและความมั่นคงของทุกประเทศ ประธานาธิบดีทั้งสองมองว่าการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งปาเลสไตน์-อิสราเอลถือเป็นเรื่องเร่งด่วน การดำเนินการตามมติของสหประชาชาติเป็นเรื่องจำเป็น และปัญหาปาเลสไตน์ต้องแก้ไขบนพื้นฐานแนวทางสองรัฐ

จีนและรัสเซียเชื่อว่าการสร้างข้อตกลงทางการเมืองเป็นวิถีทางอันถูกต้องของวิกฤตยูเครน โดยจุดยืนของจีนต่อประเด็นนี้ยังคงเดิมและชัดเจน ได้แก่ การยึดมั่นเจตจำนงและหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ เคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ เคารพข้อคำนึงด้านความมั่นคงตามกฎหมายของทุกฝ่าย และสร้างสถาปัตยกรรมความมั่นคงใหม่ที่มีสมดุล ประสิทธิภาพ และยั่งยืน จีนหวังว่าสันติภาพและความมั่นคงจะกลับคืนสู่ทวีปยุโรปในเร็ววัน และพร้อมมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อบรรลุสิ่งดังกล่าว

นายสี ทิ้งท้ายว่ามิตรภาพเก่าแก่และความร่วมมือรอบด้านระหว่างจีนและรัสเซียเป็นแรงผลักดันสองประเทศฟันฝ่าคลื่นลมพายุ โดยจีนและรัสเซียจะยังคงยึดมั่นเป้าประสงค์ตั้งต้นและร่วมกันแสดงความรับผิดชอบเพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์แก่ประชาชน รวมถึงมีส่วนส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงของโลกต่อไป.-813.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนมีฝนน้อย คลื่นลมมีกำลังอ่อน

กทม. 2 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนมีฝนน้อย คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนน้อยเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตากอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ […]

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย

เคลียร์ BM21 หมู่บ้านกระสุนตก 5 ลูก อ.น้ำยืน อุบลฯ

อุบลราชานี 1 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และทำงานไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ใน 8 หมู่บ้าน 24 จุด พบกระสุน BM21 ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และพร้อมทำงาน โดยในช่วงเช้าทำลาย 3 จุด จุดแรกอยู่บริเวณริมถนนสายน้ำยืน นาจะหลวย เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนขุดดินด้านบนแล้วหย่อนระเบิด C4 ลงไปในหลุมที่หัวกระสุน BM21 ตกแต่ไม่ระเบิด จากนั้นจึงจุดชนวนทำลายระเบิด ใช้เวลาเพียง 20 นาที หัวกระสุนถูกทำลายโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ […]

ทูตทหาร 23 ประเทศ ลงพื้นที่จุดกัมพูชายิงถล่ม

ศรีสะเกษ 1 ส.ค. – วันนี้คณะทูตานุทูตและทูตทหาร รวม 23 ประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในพื้นที่ถูกกัมพูชาโจมตี และศูนย์พักพิง การลงพื้นที่ในวันนี้ทางประเทศไทยต้องการให้คณะทูตทั้ง 23 ประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงและนำไปเผยแพร่ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ จุดแรกคือปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM21 โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายสรุปให้คณะได้รับฟังถึงเหตุการณ์วันแรกที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว บอกเล่าเหตุการณ์ความสูญเสียจากที่เกิดขึ้นต่อคณะทูตานุทูตผ่านล่าม พร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตที่ผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จากนั้นคณะทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ ต่อไปยังจุดกระสุนตกใส่พลเรือน ที่อาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชำเม็ง อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ส่งผลทำให้อาคาร รพ.สต. เสียหาย ที่นี่ ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กเล็กอยู่ประจำกว่า 30 คน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทางจังหวัดได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง โดยนางเข็มจิรา จันทร์ทอง ผอ.รพ.สต.บ้านชำเม็ง บอกว่าถ้าวันนั้น หากยังไม่มีการอพยพ […]