คลื่นความร้อนรุนแรง ปกคลุมตั้งแต่อินเดียถึงฟิลิปปินส์

5 พ.ค.- เวียดนามเผชิญอุณหภูมิพุ่งทำสถิติสูงสุดมากกว่า 100 ครั้งทั่วประเทศในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่คลื่นความร้อนรุนแรงเผาผลาญเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


สภาพอากาศร้อนจัดปะทุทั่วเอเชีย ตั้งแต่อินเดียไปจนถึงฟิลิปปินส์ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่เวียดนาม เผชิญกับคลื่นอุณหภูมิสูงถึง 3 ระลอกในเดือนเมษายน ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยศูนย์พยากรณ์อากาศอุทกวิทยาแห่งชาติ อุณหภูมิสูงสุดที่ 44 องศาเซลเซียสใน 2 เมือง เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ต่ำกว่าอุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ในเวียดนามเพียงเล็กน้อย ซึ่งอยู่ที่ 44.2 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมปีที่แล้ว โดยรวมแล้ว สถานีตรวจอากาศ 102 แห่ง ตรวจวัดอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน ภาคเหนือและภาคกลางของเวียดนามเผชิญคลื่นความร้อนที่รุนแรง อุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2-4 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ สถานีตรวจอากาศ 7 แห่ง อุณหภูมิทำสถิติสูงสุดเกิน 43 องศาเซลเซีย ตลอดทั้งวันอังคารที่ผ่านมา สำนักอุตุนิยมวิทยาเวียดนามคาดว่า สภาพอากาศจะร้อนมากขึ้นในเดือนพฤษภาคม คาดว่า อุณหภูมิจะสูงกว่าหลายปีก่อนหน้าราว 1.5-2.5 องศาเซลเซียส

เช่นเดียวกับบังกลาเทศและเมียนมา ก็เผชิญเดือนเมษายนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนในไทย โรคลมแดดคร่าชีวิตผู้คนแล้วอย่างน้อย 30 คนตั้งแต่ต้นปี และอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้น ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุระเบิดรุนแรงที่คลังกระสุนปืนในกัมพูชาสัปดาห์ก่อน


ด้านบาทหลวงโรมันคาทอลิกในฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้ชาวคริสต์ ร่วมกันสวดมนต์ขอฝนและให้อุณหภูมิลดต่ำลง หลังจากคลื่นความร้อนรุนแรง ทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องสั่งปิดโรงเรียนหลายหมื่นแห่งมาตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ในเมืองโกลกาตา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของอินเดีย ก็เผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรง อุณหภูมิทะลุ 43 องศาเซลเซียส สำหรับเดือนเมษายนเดือนเดียวเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของเมืองตั้งแต่ปี 2497 แม้แต่เนปาล ประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูง ก็ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อน รัฐบาลประกาศเตือนภัยสุขภาพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็กำลังต่อสู้กับไฟป่าที่รุนแรงผิดปกติ

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์เตือนมานานแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ จะก่อให้เกิดคลื่นความร้อนบ่อยครั้งขึ้น ยาวนานขึ้นและรุนแรงขึ้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก