วอชิงตัน 3 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐขอให้กลุ่มนักศึกษาที่ตั้งเต็นท์สนับสนุนปาเลสไตน์อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยของสหรัฐเคารพกฎหมาย หลังจากตำรวจบุกเข้าไปกวาดจับนักศึกษามหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิสหรือยูซีแอลเอ (UCLA)
ประธานาธิบดีไบเดนแถลงจากทำเนียบขาวว่า สหรัฐเป็นสังคมที่มีอารยธรรม และต้องมีความเป็นระเบียบ สหรัฐไม่ใช่ประเทศเบ็ดเสร็จที่จะปิดปากผู้คนหรือบดขยี้ผู้มีความเห็นต่าง แต่ก็ไม่ใช่ประเทศไร้กฎหมาย ทุกคนมีสิทธิประท้วง แต่ไม่มีสิทธิสร้างความโกลาหล ทุกคนมีสิทธิได้รับการศึกษาและเดินอยู่ในมหาวิทยาลัยอย่างปลอดภัย
ประธานาธิบดีไบเดนแสดงความเห็นเป็นครั้งแรกต่อกระแสการตั้งเต็นท์ประท้วงของนักศึกษาที่เริ่มขึ้นเมื่อนักศึกษามหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนครนิวยอร์กตั้งเต็นท์ในมหาวิทยาลัยตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนโดยใช้ชื่อว่า การตั้งเต็นท์เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับกาซา เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยถอนการลงทุนในอิสราเอลและบริษัทที่ได้ประโยชน์จากสงครามกาซา จากนั้นก็เกิดการประท้วงลักษณะเดียวกันในมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทั่วสหรัฐ มีคนถูกตำรวจจับกุมรวมแล้วมากกว่า 2,000 คน ในจำนวนนี้ 209 คนถูกจับกุมที่ยูซีแอลเอ เมื่อตำรวจในชุดปราบจลาจลหลายร้อยนายเข้าไปรื้อถอนเต็นท์ในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น
ยูซีแอลเอออกแถลงการณ์ว่า การตั้งเต็นท์เป็นสิ่งผิดกฎหมายและขัดต่อนโยบายของมหาวิทยาลัย ทำให้สภาพการณ์ภายในมหาวิทยาลัยไม่ปลอดภัย และทำลายความสามารถของมหาวิทยาลัยในการทำตามภารกิจ กลุ่มผู้ประท้วงแทรกแซงการเรียนการสอนโดยตรง ด้วยการขวางทางนักศึกษาไม่ให้เข้าชั้นเรียน และทำให้นักศึกษาคนอื่นเสี่ยงอันตรายเมื่อกลุ่มเผชิญหน้ากับกลุ่มนักศึกษาที่ประท้วงสนับสนุนอิสราเอล.-814.-สำนักข่าวไทย