อาเซียนผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดจากคลื่นความร้อน

กรุงเทพ 1 พ.ค. – นอกจากประเทศไทยแล้ว หลายชาติในอาเซียนทั้งเมียนมา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ล้วนแต่กำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดจากคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมไปทั่วภูมิภาคอยู่ในขณะนี้


สำนักอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาของเมียนมารายงานว่า เมือง 7 แห่งของเมียนมาเผชิญสภาพอากาศเดือนเมษายนที่ร้อนที่สุดในรอบหลายทศวรรษเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยที่เมืองเชาะ ในภาคมะกเว ทางตอนกลางของเมียนมา อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 48.2 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิเดือนเมษายนที่สูงสุดในรอบ 56 ปีตั้งแต่เริ่มมีการบันทึก ขณะที่เมืองญองอู สะกาย ตะดาอู ตองวิงยี มัณฑะเลย์ และซวงตู เผชิญกับวันที่ร้อนที่สุดในเดือนเมษายนเมื่อวันอาทิตย์เช่นกัน ส่วนในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา หลายพื้นที่ของเมียนมา โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนกลางและบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ มีรายงานอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

ขณะที่ผู้คนในกรุงฮานอยของเวียดนาม ใช้โอกาสในวันหยุดเนื่องในวันรวมชาติของเวียดนามเมื่อวานนี้ 30 เมษายน พักผ่อนอยู่กับบ้านหรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูงตามศูนย์การค้าหรือสถานที่ร่ม แทนการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อเลี่ยงการเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดที่แผ่ปกคลุมกรุงฮานอยและหลายพื้นที่ของเวียดนามในช่วงหลายวันมานี้ สำนักอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามรายงานว่า พื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางของเวียดนาม มีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 42-44 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจทำให้ผู้คนเกิดอาการลมแดดและขาดน้ำ รวมถึงอาจทำให้เกิดไฟป่า และว่าสภาพอากาศทั่วเวียดนามจะยังคงร้อนจัดต่อไปจนถึงปลายสัปดาห์นี้


ด้านฟิลิปปินส์ สภาพอากาศร้อนจัดต่อเนื่องช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผลผลิตในฟาร์ม แหล่งน้ำและพลังงาน เป็นภาระหนักต่อธุรกิจต่างๆ เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อนักเรียน นักศึกษาที่ต้องหยุดเรียนต่อเนื่อง จากดัชนีความร้อนพุ่งแตะ 50 องศาเซลเซียสในหลายภูมิภาคของฟิลิปปินส์ เพราะปรากฎการณ์เอลนีโญ ทำให้สภาพอากาศร้อนรุนแรงมากขึ้นในช่วงฤดูร้อนเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ขณะที่ดัชนีความร้อน หรืออุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้ เมื่อนำค่าความชื้นสัมพัทธ์มาคำนวณด้วย คาดว่าจะอยู่ที่ 45 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อร่างกาย

กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ ระบุว่า กำลังสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต หลังมีรายงานผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อนแล้วอย่างน้อย 6 คนทั่วประเทศ และมีคนล้มป่วยอีก 34 คน นอกจากนี้ยังออกคำเตือนให้ระมัดระวังอาการฮีทสโตรกที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ คาดว่าสภาพอากาศร้อนจัดในฟิลิปปินส์จะลากยาวต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมเป็นอย่างน้อย.-815.-813.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”