ซิดนีย์ 16 เม.ย. – ตำรวจออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า เหตุคนร้ายใช้มีดไล่ทำร้ายบิชอปที่โบสถ์ของชาวอัสซีเรียและสาวกบางคนที่นครซิดนีย์ ถือเป็นการกระทำที่เป็นก่อการร้ายโดยผู้ต้องสงสัยที่มีแนวคิดสุดโต่งทางศาสนา ซึ่งรนับเป็นเหตุการณ์ใข้มีดทำร้ายประชาชนครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาห่างกันเพียง 3 วันเท่านั้น
คาเรน เว็บบ์ ผู้บัญขาการตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่า มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การก่อเหตุมีแรงจูงใจมาจากแนวคิดสุดโต่งในทางศาสนา และหลังจากพิจารณาหลักฐานต่าง ๆ แล้วเธอขอประกาศว่า เหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้าย ตำรวจกล่าวว่า คนร้ายมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าโดยเดดินทางมาที่โบสถ์ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเขามากและมาพร้อมกับพกมีดมาด้วย ในขณะที่เว็บบ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นนี้เชื่อว่า คนร้ายลงมือเพียงลำพัง
เหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ ที่โบสถ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน รวมถึงบิชอปมาร์ มารี เอ็มมานูเอล แห่งโบสต์ศาสนาคริสต์จของชาวอัสซีเรีย “เดอะ ก็อด เชฟเพิร์ด เชิร์ช” (The Good Shepherd Church) โดยคนร้ายบุกเข้าไปใช้มีดแทงเขาในขณะประกอบพิธีทางศาสนาและมีการไลฟ์สดออนไลน์ไปพร้อม ๆ กัน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เขตเวคลีย์ ย่านชานเมืองของนครซิดนีย์ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชนที่เป็นสาวกของบิชอป คนกลุ่มนี้ต้องการให้ตำรวจส่งมอบตัวคนร้ายไปให้กับพวกเขา ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นวัยรุ่นชายอายุ 15 ปี ได้ในจุดเกิดเหตุและจำเป็นต้องคุมตัวเขาไว้ภายในโบสถ์เพื่อความปลอดภัยของเขาเองเนื่องจากประชาขนเป็นจำนวนมากรวมตัวกันด้านนอกโบสถ์.-813.-สำนักข่าวไทย