เตหะราน 3 เม.ย. – นักวิเคราะห์การเมืองชาวอิหร่านคาดว่ารัฐบาลอิหร่านจะดำเนินการตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการที่อิสราเอลโจมตีอาคารกงสุลของสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรีย เมื่อวันจันทร์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน
สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนรายงานอ้างการให้ความเห็นของนายมุสตาฟา คุชเชม นักวิเคราะห์การเมืองชาวอิหร่านที่มองว่า อิสราเอลต้องการบรรลุ 2 เป้าหมายด้วยวิธีการผิดกฎหมายคือ การลากอิหร่านเข้าสู่ความขัดแย้งระดับภูมิภาคเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาคมโลกที่มีต่อสงครามในกาซา และการลดกระแสกดดันภายในประเทศของอิสราเอล นายคุชเชมกล่าวว่า อิสราเอลต้องการทำให้ความขัดแย้งลุกลามไปยังประเทศที่ต่อต้านอิสราเอล เช่น เลบานอน ซีเรีย อิรัก อิหร่าน เยเมน แต่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำได้ จึงจุดชนวนด้วยการก่อเหตุกับอิหร่าน และเมื่ออิหร่านตอบโต้ สหรัฐและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตก็จะเข้ามา และทำให้สถานการณ์บานปลายกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค ขณะเดียวกันอิสราเอลต้องการหาข้อแก้ตัวบางอย่างกับประชาชนในประเทศ
นายคุชเชมกล่าวต่อไปว่า การที่อิหร่านสนับสนุนปาเลสไตน์ที่ต่อต้านอิสราเอลไม่ได้หมายความว่าอิหร่านต้องการให้สงครามลุกลาม และได้ใช้ความอดกลั้นเชิงยุทธศาสตร์ต่อการที่ถูกอิสราเอลโจมตีบุคลากรทางทหารในช่วงหลายเดือนมานี้ แต่อิสราเอลยังคงเพิ่มการยั่วยุ ทำให้อิหร่านรู้สึกว่าจะต้องตอบโต้อย่างรุนแรงเพื่อเป็นการป้องปราม เช่น การโจมตีอย่างเจาะจงและปฏิบัติการพิเศษในอิสราเอล
สถานีโทรทัศน์ไออาร์ไอบี (IRIB) ของทางการอิหร่านรายงานเมื่อวันที่ 2 เมษายนว่า อิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธใส่อาคารกงสุลของสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรียเมื่อบ่ายวันที่ 1 เมษายน ทำให้ที่ปรึกษาทางทหารของอิหร่านเสียชีวิต 7 คน และชาวซีเรียเสียชีวิต 6 คน.-814.-สำนักข่าวไทย