Google จับมือ ASEAN Foundation จัดโครงการ “รู้เท่าทันดิจิทัล” ให้พลเมืองอาเซียน

กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – Google.org ร่วมมือกับ ASEAN Foundation หรือ มูลนิธิอาเซียน  จัดโครงการ ASEAN Digital Literacy Program (ADLP) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ แก่พลเมืองอาเซียนให้สามารถรู้เท่าทันโลกดิจิทัล


การจัดงานที่กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ เป็นภารกิจที่ 4 ซึ่งเป็นภารกิจท้ายสุดของโครงการ ASEAN Digital Literacy คือ สรุปผลศึกษาวิจัยการข้อมูลความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและความฉลาดรู้เรื่องดิจิทัล (digital divided landscape) ใน 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน นอกเหนือไปจาก 3 ภารกิจสำคัญที่ทำมาก่อนหน้านี้ คือ ทำงานกับกลุ่มเครือข่ายเยาวชนจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน (ASEAN Youth Advisory Group) เพื่อทำแคมเปญและปรับเนื้อหาเพื่อสร้างความฉลาดรู้ดิจิทัลให้เหมาะกับประเทศของตน,  ฝึกอบรม (Training of Trainers) ให้เยาวชนกลุ่มต้นแบบจำนวน 2,000 คน มีความรู้ฉลาดใช้ดิจิทัล รวมทั้งนำเนื้อหาด้าน digital literacy ที่ Google มีอยู่แล้วมาปรับให้เข้ากับบริบทและภาษาของแต่ละประเทศ ก่อนนำไปสู่ภารกิจที่ 3 คือ ให้เยาวชนทั้ง 2,000 คนดังกล่าวกลับไปถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่คนในประเทศบ้านเกิด

Marija Ralic ผู้บริหาร Google.org ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นองค์กรหลักที่สนับสนุนโครงการ ASEAN Digital Literacy กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของมูลนิธิอาเซียน ภายใต้ความคิดริเริ่มของ รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหาร ASEAN Foundation ว่า โครงการนี้เกิดสัมฤทธิ์ผลในการสร้างความตระหนักรู้และเสริมศักยภาพพลเมืองอาเซียนให้รู้เท่าทันดิจิทัลเหนือความคาดหมาย ช่วยให้พลเมืองอาเซียนได้ความรู้ถึง 190,000 คน จากตัวเลขเป้าหมายเบื้องต้น100,000 คน 


เอ็ม.ไอ. เดอรี่ อามาน

ขณะที่เอ็ม.ไอ. เดอรี่ อามาน ผู้แทนถาวรของสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำอาเซียน และประธานคณะกรรมการทรัสตีของมูลนิธิอาเซียน กล่าวในพิธีเปิดย้ำถึงความสำคัญของการเสริมศักยภาพและสร้างความสามารถในการรู้เท่าทันดิจิทัลว่า จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลง รวมทั้งสร้างอนาคตที่ถูกที่ควรให้แก่เด็กและเยาวชน ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยข่าวปลอม และข้อมูลที่บิดเบือนจากความเป็นจริง และการที่ทุกฝ่ายในประชาคมอาเซียนจับมือร่วมมือกันถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลดีต่อภูมิภาคโดยรวมอย่างยิ่ง

จากการศึกษาวิจัยเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลที่นักวิจัยจาก 10 ชาติสมาชิกอาเซียนสรุปผลวันนี้ พบว่า ปัญหาที่พบร่วมกันส่วนใหญ่ คือ ผู้เสพสื่อดิจิทัลยังขาดทักษะด้านการคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking) ทำให้หลงเชื่อข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่มีการยืนยันตัวตนได้ง่าย ซึ่งแน่นอนว่าล้วนเป็นข้อมูลลวง ข่าวปลอม ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงเกิดในกลุ่มเยาวชน บุคคลทั่วไป แต่ยังรวมถึงแวดวงครูและนักการศึกษา กลุ่มเปราะบางที่พบซึ่งในลักษณะอันคล้ายกันคือผู้สูงอายุ กลุ่มวัยรุ่น และผู้ด้อยโอกาสส่วนประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสิงคโปร์ ซึ่งประชาชนมีอัตราการรู้หนังสือมากถึง 97% ก็ยังไม่พ้นตกเป็นเหยื่อของ scammer (นักต้มตุ๋นทางออนไลน์) โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่มั่นใจว่าสามารถแยกแยะข้อมูลเท็จได้

รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม

ด้าน รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหาร ASEAN Foundation ระบุว่า ความฉลาดรู้ทางดิจิทัล มีความสำคัญต่อพลเมืองอาเซียนโดยเฉพาะคนไทยอย่างมากในยุคปัจจุบัน หากสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไทยก็จะเป็น 1 ในอาเซียนที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดได้ แต่จำเป็นต้องมีความฉลาดรู้เรื่องดิจิทัล และเตรียมคนให้พร้อม แต่ปัจจุบันไทยยังมีขาดความพร้อมอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องความสามารถในการเข้าถึงและใช้ข้อมูล (information competency) และการคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking).-811(814).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร