โตเกียว 11 มี.ค.- วันนี้เป็นวันครบรอบ 13 ปีของเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิรุนแรงพัดถล่มญี่ปุ่น คร่าชีวิตคนหลายหมื่นคน และเกิดวิกฤตินิวเคลียร์ครั้งใหญ่ตามมา
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เข้าร่วมพิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งและเกิดคลื่นยักษ์สึนามิรุนแรงตามมา ซึ่งทำให้มีชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก ทั้งยังทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนกลายเป็นวิกฤตินิวเคลียร์ครั้งใหญ่สุดของโลก นับตั้งแต่เกิดวิกฤติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในยูเครนเมื่อ 38 ปีที่แล้ว
นายคิชิดะ กล่าวว่า ภัยพิบัติครั้งนั้นได้พรากชีวิตชาวญี่ปุ่นไปเป็นจำนวนมาก และประกาศว่าญี่ปุ่นได้บทเรียนจากภัยพิบัติร้ายแรงถึง 3 อย่างในครั้งนั้น ได้แก่ แผ่นดินไหวและสึนามิรุนแรง รวมทั้งวิกฤตินิวเคลียร์ ทำให้ญี่ปุ่นมีมาตรการรับมือกับภัยพิบัติในครั้งหลังๆ ที่ดีขึ้น ขณะที่ประชาชนทั่วประเทศต่างก็ร่วมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 9.0 ที่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 มีนาคม 2554 ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิขนาดใหญ่ ความสูงถึง 10 เมตร พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งหลายจังหวัดในภูมิภาคโตโฮกุ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 22,000 คน และยังทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนต้องอพยพประชาชนนับแสนคน และจนถึงขณะนี้ยังมีเกือบ 3 หมื่นคนที่ยังไม่สามารถกลับบ้านได้.-816(814).-สำนักข่าวไทย