ปอร์โตแปรงซ์ 4 มี.ค.- รัฐบาลเฮติประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเย็นวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในเมืองหลวง และแก๊งอาชญากรบุกทลายเรือนจำใหญ่ 2 แห่ง ในเมืองหลวง ปล่อยนักโทษหลบหนีออกมาหลายพันคน
รัฐบาลประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 18:00 น.ถึง 05:00 น.ตั้งแต่วันที่ 3-6 มีนาคม โดยจะต่ออายุทุก 72 ชั่วโมง ยกเว้นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย นักดับเพลิง คนขับรถพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และผู้สื่อข่าวที่ปฏิบัติหน้าที่ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมีขึ้นหลังจากสถานการณ์ตามท้องถนนในกรุงปอร์โตแปรงซ์ทวีความรุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนหลายพื้นที่กลายเป็นอัมพาต สายการสื่อสารถูกทำลายเสียหาย
นายจิมมี เชรีซีเยร์ อดีตตำรวจที่ผันตัวมาเป็นหัวหน้ากลุ่มอาชญากรใหญ่ในเฮติชักชวนตั้งแต่วันพฤหัสบดีให้แก๊งอาชญากรร่วมมือกันโค่นล้มรัฐบาล และได้เกิดการต่อสู้กันอย่างรุนแรง พลเมืองดีบางส่วนจับอาวุธมาร่วมกับตำรวจต่อสู้กับอาชญากร ประชาชนต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือน ด้วยการเดินเท้าออกไปจากใจกลางเมืองหลวงที่ธุรกิจร้านค้าต่างๆ ต้องปิดให้บริการไป และเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สมาชิกแก๊งพร้อมอาวุธได้บุกเข้าไปยังเรือนจำในใหญ่ที่สุดของประเทศ นักโทษส่วนใหญ่จากทั้งหมดกว่า 4 พันคนหลบหนีออกไป โดยมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ยอมหนีออกมาเพราะกลัวอันตรายต่อชีวิต
นายอาเรียล อองรี นายกรัฐมนตรีเฮติเดินสายไปต่างประเทศขอให้จัดตั้งกองกำลังนานาชาติเข้าไปจัดการกับแก๊งอาชญากร ขณะนี้มี 5 ประเทศที่ประกาศเข้าร่วมแล้วคือ บาฮามาส บังกลาเทศ บาร์เบโดส เบนิน และชาด โดยที่สหประชาชาติให้การสนับสนุนและจัดสรรงบประมาณราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 360 ล้านบาท)
ความรุนแรงจากกลุ่มอาชญากรในเฮติ เลวร้ายลงในช่วงหลายปีมานี้ สหประชาชาติได้ประเมินว่าเมื่อปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตจากอาชญากรถึง 8,400 คน และ อีก 300,000 คนต้องหลบหนีจากบ้านเรือน ประชาชนทั่วไปเดือดร้อนหนักในการใช้ชีวิต เข้าถึงอาหารและการรักษาพยาบาล.-812(814).-สำนักข่าวไทย