จาการ์ตา 20 ก.พ. – ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย 2 คนที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกล่าวเรียกร้องให้รัฐสภาเข้ามาตรวจสอบคำร้องเรียน เกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง
การร้องเรียนให้มีการตรวจสอบการทุจริตเกิดขึ้นแม้ว่า ผู้สังเกตุการณ์เลือกตั้งอิสระจะระบุว่า ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเกิดการทุจริตอย่างเป็นระบบในการเลือกตั้งของอินโดนีเซียครั้งนี้ นอกเหนือไปจากประเด็น เช่น รายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชุดเก่าและการลงคะแนนล่าช้า แม้ว่าผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการคาดว่าจะประกาศไม่เกินวันที่ 20 มีนาคมแต่ การนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจะชี้ว่า นายปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกลาโหม จะได้ชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จร้อยละ 58 โดยไม่ต้องมีนการเลือกตั้งรอบ 2 ในขณะที่ นายอานีส บาสเวดัน วัย 54 ปี ผู้สมัครอิสระและอดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ได้คะแนนเสียงร้อยละ 25 ส่วนนายกันจาร์ ปราโนโว วัย 55 ปี อดีตผู้ว่าการจังหวัดชวากลาง ได้คะแนนร้อยละ 17 อย่างไรก็ตาม ผู้แพ้การเลือกตั้งทั้งสองกลุ่มได้ร้องเรียนโดยไม่ได้แสดงหลักฐานว่า มีการข่มขู่ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง การแทรกแซงสถาบันของรัฐและการใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างไม่เหมาะสม เช่น เงินกองทุนเพื่อสวัสดิการ ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไป
นายกันจาร์ กล่าววานนี้ เรียกร้องให้รัฐสภาไต่สวนเรื่องนี้ทันทีที่เปิดการประชุมในวันที่ 5 มีนาคม เขากล่าวว่า จะต้องมีการสอบสวนเรื่องนี้ อย่างน้อย รัฐสภาควรจะได้ไต่สวนหาข้อเท็จจริง ส่วนนายอานีส กล่าวว่า กลุ่มของเขาพร้อมเข้าร่วมในการไต่สวนของรัฐสภาที่จะเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้สอบสวนการดำเนินการของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม นักวิชาการจากสถานบันเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของอินโดนีเซียกล่าวว่า การไต่สวนเป็นเรื่องยาก เนื่องจากต้องได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส. และแม้ว่าจะมีการเห็นชอบให้ไต่สวน ผลการสอบสวนก็ไม่สามารถยกเลิกผลการเลือกตั้งได้อยู่ดี แต่จะเป็นการกดดันรัฐบาลใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น.-813.-สำนักข่าวไทย