กรุงเทพ 2 ก.พ.- สถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยจัดงานวันรำลึกถึงเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสากลประจำปี 2567
วันที่ 27 มกราคมของทุกปี เป็นวันรำลึกถึงเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสากลที่กำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ เพื่อรำลึกและเป็นเกียรติแก่ชาวยิว 6 ล้านคน ประกอบด้วยเด็ก 1 ล้านคนและกลุ่มผู้คนอื่นๆ อีก 5 ล้านคน ที่ถูกนาซีสังหารอย่างเป็นระบบและโหดเหี้ยมในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยได้จัดงานดังกล่าวเมื่อวันที่ 31 มกราคม เริ่มด้วยการจุดเทียน 6 เล่ม เพื่อรำลึกถึงชาวยิวผู้เสียชีวิต 6 ล้านคน โดยเอกอัครราชทูตอิสราเอล นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเยอรมนี ดร. แอ็นสท์ ว็อล์ฟกัง ไรเชิล และ นางกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย หลังจากนั้น เป็นการกล่าวสุนทรพจน์โดยเอกอัครราชทูตเยอรมนี ในหัวข้อ “ทำความเข้าใจสถานการณ์ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และวิธีที่เยอรมนีนำการศึกษามาใช้เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก” ตามด้วย ดร. เกลน ชัทเทลิเอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวถึง “วิธีเตรียมนักศึกษาให้เข้าใจเรื่องเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”
พิธีจบลงด้วยสุนทรพจน์โดยเอกอัครราชทูตอิสราเอลที่กล่าวถึงผลอันเกิดจากความล้มเหลวในการจัดการศึกษาที่ดี เพราะเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเกิดขึ้นมาแล้วกว่า 80 ปี แต่บทเรียนจากความโหดร้ายมิได้หยุดอยู่ในช่วงเวลานั้น กลับยังคงมีความเกี่ยวเนื่องมาจนถึงปัจจุบันคือ ความเกลียดชัง การไม่ยอมรับความแตกต่าง การสังหารหมู่ และเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ ยังคงเกิดขึ้นอยู่ทั่วโลก เอกอัครราชทูตอิสราเอลกล่าวในระหว่างพิธีว่า การที่กลุ่มก่อการร้ายฮามาสบุกเข้ามาโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว เป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่เตือนเราว่า ความโหดร้ายเช่นนี้มิใช่เพียงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตอีกต่อไป ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน ที่จะต้องให้ความรู้แก่คนรุ่นหลัง เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต.-814.-สำนักข่าวไทย