อินเดีย 22 ม.ค. – ความขัดแย้งระหว่างศาสนาฮินดูกับอิสลามในอินเดีย ส่อเค้ารุนแรงขึ้นอีก เมื่อวันนี้รัฐบาลอินเดียจะเปิดวิหารพระราม ในเมืองอโยธยา ที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ข้อพิพาทกับชาวมุสลิม
พื้นที่พิพาทในเมืองอโยธยา รัฐอุตตระประเทศทางเหนือ ของอินเดีย เคยเป็นที่ตั้งของ มัสยิดบาบรี อายุกว่า 400 ปี จนกระทั่งเมื่อปี 2539 กลุ่มฮินดูขวาจัดบุกเข้าทำลายมัสยิด เพราะเห็นว่า แต่เดิมนั้นพื้นที่นี้เป็นวิหารของชาวฮินดู จนเกิดการประท้วง และปะทะกันระหว่างคนสองศาสนาในหลายเมืองของอินเดีย ทำให้ผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 2,000 คน
ต่อมาเมื่อมีการฟ้องร้องดำเนินคดี จนเมื่อปี 2562 หรือ ราว 5 ปีที่แล้ว ศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินให้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นกรรมสิทธิ์ของชาวฮินดู จึงมีการสร้างวิหารพระรามขึ้นใหม่ ซี่งเป็นไปตามคำร้องของชาวฮินดู ที่เชื่อว่า โดยดั้งเดิมนั้นพื้นที่พิพาทเป็นที่ตั้งของวิหารพระราม แล้วชาวมุสลิมที่รุกรานเข้าไปได้สร้างมัสยิดทับวิหารเดิม ที่เป็นแดนกำเนิดของพระราม
ในวันนี้ นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย จะเดินทางไปทำพิธีเปิดวิหารที่มีความสูง 3 ชั้น สร้างด้วยดินทรายสีชมพู ผสมกับหินแกรนิตสีดำเป็นหลัก ภายในประดิษยฐานเทวรูปพระรามความสูง 51 นิ้ว เขาได้ยกให้การสร้างวิหารพระรามนี้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียงจนพรรคภารติยะชันตะของเขาชนะการเลือกตั้ง และเพิ่งกล่าวว่า เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของรัฐบาล ในขณะเดียวกัน นักการศาสนาบางคนยังเห็นว่า วิหารยังไม่สมบูรณ์และไม่ควรประกอบพิธีใดๆ ยิ่งไปกวานั้น ฝ่ายค้านได้ต่อต้าน นายโมดี และรัฐบาลที่มีแนวนโยบายชาตินิยมฮินดู เพราะเห็นว่าเป็นการนำความขัดแย้งมาหาประโยชน์ทางการเมือง การรีบเร่งเปิดวิหาร จึงน่าจะเป็นความพยายามหาคะแนนนิยมจากชาวฮินดู ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ในอีกไม่เดือนนี้.-สำนักข่าวไทย