เผยโฉมราชินีพระองค์ใหม่เดนมาร์ก

โคเปนเฮเกน 12 ม.ค.- เจ้าหญิงแมรี โดนัลด์สัน พระชายาในเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฏราชกุมารแห่งราชวงศ์เดนมาร์ก เตรียมขึ้นเป็นพระราชินีองค์ใหม่ของเดนมาร์ก เมื่อเจ้าชายเฟรเดอริก พระสวามี จะขึ้นครองราชย์ต่อจากพระมารดาในวันอาทิตย์นี้


เจ้าหญิงแมรี โดนัลด์สัน ซึ่งเกิดในออสเตรเลีย เตรียมตัวเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์กในวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคมนี้ เมื่อเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฏราชกุมารแห่งราชวงศ์เดนมาร์ก พระสวามี เตรียมสืบราชสันตติวงศ์ขึ้นครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 พระราชมารดา

เจ้าหญิงแมรี พระชนมายุ 51 พรรษา เป็นสามัญชนจากรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย พบรักกับเจ้าชายเฟรเดอริกที่นครซิดนีย์ ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2543 ก่อนเข้าพิธีอภิเษกสมรสในปี 2547 ในฐานะพระชายามกุฏราชกุมารแห่งราชวงศ์เดนมาร์ก ทรงประกอบพระกรณียกิจในฐานะองค์อุปถัมภ์องค์กรที่ส่งเสริมประเด็นต่าง ๆ ที่อยู่ในความสนใจของพระองค์ รวมถึงสิทธิเด็กและสตรี และความยั่งยืนด้านแฟชั่น ที่พระองค์มีความสนใจอย่างลึกซึ้ง และมีศักยภาพของผู้นำเต็มเปี่ยม รวมถึงยังทรงมีเซนส์ด้านแฟชั่นที่แข็งแกร่งมาก ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่า พระกรณียของพระองค์ในประเด็นทางสังคมด้านต่าง ๆ ทำให้พระองค์เป็นที่รักของประชาชนเดนมาร์กมาโดยตลอด


ทั้งนี้ ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอ ที่ 2 ทรงสร้างความประหลาดใจให้ชาวเดนมาร์กทั้งประเทศ ด้วยการประกาศสละราชสมบัติ หลังจากครองราชย์มายาวนาน 52 ปี ซึ่งจะทำให้เจ้าชายเฟรเดอริก พระโอรสองค์โต พระชนมายุ 55 พรรษา ขึ้นครองราชย์สืบต่อไป

ในเดนมาร์ก อำนาจการปกครองอย่างเป็นทางการอยู่ที่รัฐสภาและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง กษัตริย์ทรงถูกคาดหวังให้อยู่เหนือการเมือง โดยเป็นตัวแทนของประเทศมีหน้าที่ตามราชประเพณี ตั้งแต่การเสด็จเยือนต่างประเทศ ไปจนถึงการเฉลิมฉลองวันชาติ.-815(814).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย