ตำรวจลอนดอนหาทางสกัดเหตุวัยรุ่นถูกแทงตายสัปดาห์ละคน

ลอนดอน 22 ก.ค.- ตำรวจกรุงลอนดอนของอังกฤษกำลังหาทางยับยั้งเหตุวัยรุ่นอายุไม่ถึง 25 ปี ถูกแทงเสียชีวิตแล้ว 27 คนตั้งแต่ต้นปีนี้ หรือเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 คน 


นางแอมเบอร์ รัดด์ รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษประกาศมาตรการใหม่ให้การครอบครองอาวุธที่ซื้อหาได้ตามท้องถนนอย่างมีดและสนับมือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ส่วนผู้สั่งซื้อมีดออนไลน์จะต้องไปรับด้วยตนเองเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ซื้ออายุเกิน 18 ปีตามที่กฎหมายกำหนด ด้านนายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนตำหนิรัฐบาลที่ตัดลดงบประมาณทำให้ต้องปิดศูนย์เยาวชนไปถึง 30 แห่ง ทั้งที่ศูนย์เหล่านี้จะช่วยยับยั้งไม่ให้เด็กหันไปก่ออาชญากรรมได้อย่างแท้จริง ขณะที่กำลังตำรวจในกรุงลอนดอนก็ลดลงร้อยละ 14 ตั้งแต่ปี 2553 ทำให้ตำรวจต้องร่วมมือกับโรงพยาบาลรวบรวมและแบ่งปันข้อมูลเหตุแทงที่เกิดขึ้นใหม่ทุกครั้ง หวังป้องกันและรับมือให้ได้ผลท่ามกลางทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด

เจ้าหน้าที่มูลนิธิเบน คินเซลลาที่ตั้งขึ้นอุทิศแก่วัยรุ่นคนหนึ่งที่ถูกแทงเสียชีวิตระบุว่า ตัวเลขวัยรุ่นถูกแทงสัปดาห์ละ 1 คน น่าตกใจแต่เชื่อว่าเป็นเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เหยื่อส่วนใหญ่จะกลายเป็นคนทุพลภาพไปตลอดชีวิต ซึ่งเป็นบาดแผลทางจิตใจที่ไม่สามารถเยียวยาได้เมื่อตระหนักว่าไม่สามารถกลับไปมีชีวิตเหมือนเดิมได้อีกต่อไป ทั้งนี้ช่วงเดือนเมษายนปีก่อนถึงมีนาคมปีนี้ ตำรวจลอนดอนได้รับแจ้งเหตุแทงกันกว่า 12,000 ราย มีผู้บาดเจ็บร่วม 4,400 คน เป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบ 5 ปี หัวหน้าตำรวจลอนดอนที่เพิ่งเกษียณเมื่อปีก่อนกล่าวว่า คนทั่วไปคิดว่าการแทงกันเป็นเรื่องของแก๊งอาชญากรรม แต่แท้จริงแล้วเหยื่อ 3 ใน 4 เป็นวัยรุ่นทั่วไปที่คิดว่าการพกมีดจะช่วยให้ปลอดภัยแต่กลับเพิ่มโอกาสให้ตัวเองกลายเป็นเหยื่อมีดเสียเอง.-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย