ซิดนีย์ 9 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย เตือนประชาชนดูแลตัวเองให้ปลอดภัย เนื่องจากคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมทางฝั่งตะวันออกของประเทศได้ทำให้อุณหภูมิในวันนี้ของนครซิดนีย์สูงที่สุดในรอบ 3 ปี
นครซิดนีย์เป็นเมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย สถานีตรวจวัดอากาศวัดอุณหภูมิได้ 38.9 องศาเซลเซียส ในช่วงหลังเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ร้อนที่สุดนับจากเดือนพฤศจิกายน 2563 ส่วนที่เมืองเพนริธ ที่อยู่ทางตะวันตกสุดของซิดนีย์ วัดอุณหภูมิได้สูงถึง 41.4 องศาเซลเซียส นายกรัฐมนตรีอัลบาเนซี กล่าวว่า ด้วยอุณหภูมิที่สูงในวันนี้ ขอให้ประชาชนดูแลกันและดูแลตัวเองให้ปลอดภัย เรื่องนี้ย้ำเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นภัยต่อสุขภาพประชาชนและสภาพแวดล้อม จึงต้องตระหนักว่าจำเป็นต้องมีมาตรการรับมือที่ครอบคลุม
สำนักอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย ประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อนทั่วทั้งรัฐนิวเซาท์เวลส์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้น 10 องศาเซลเซียสจากอุณหภูมิเฉลี่ย พร้อมกับเตือนให้ทารก คนชรา และผู้ป่วย อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศเย็น ด้านสำนักงานไฟป่ารัฐนิวเซาท์เวลส์ แจ้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า เกิดไฟป่าทั่วรัฐมากกว่า 70 จุด ในจำนวนนี้ 29 จุดยังไม่สามารถควบคุมได้ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ฤดูร้อนของออสเตรเลียในปีนี้จะทำให้ไฟป่ารุนแรงที่สุดนับจากแบล็กซัมเมอร์ (Black Summer) ปี 2562-2563 ที่คร่าชีวิตสัตว์ป่าไปหลายล้านตัว และทำให้หลายเมืองเต็มไปด้วยควันพิษ.-814.-สำนักข่าวไทย