จาการ์ตา 18 ก.ค.- นายเซตยา โนวันโต ประธานสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียปฏิเสธเรื่องทุจริตเงินในโครงการบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ และเผยว่าตกใจที่เห็นชื่อตนเองในข่าวว่าเป็นบุคคลที่ถูกคณะกรรมการปราบปรามการทุจริต (เคพีเค) สอบสวน
นายโนวันโต วัย 62 ปี ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานพรรคโกลคาร์ พรรคการเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังประชุมแกนนำ ส.ส.ในวันนี้ว่า ตกใจเมื่ออ่านเจอข่าวว่าเขาถูกเคพีเคระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยเรื่องทำให้รัฐสูญเสียหายอย่างน้อย 2.3 ล้านล้านรูเปียห์ (ราว 5,800 ล้านบาท) ในโครงการออกบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ปี 2554-2555 เขาพร้อมปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่ขอยืนยันว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่ใช่เรื่องจริง เงินจำนวนดังกล่าวมหาศาลมาก จะโอนจะรับกันอย่างไร
เคพีเคกำลังสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า มีการนำเงิน 5,000-5.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 167,890-184.68 ล้านบาท) ที่ได้จากการบวกราคากลางในการประมูลจัดซื้อจัดจ้างทำบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์มาแบ่งปันกันในห้องประชุมสภา ข้าราชการ 2 คนที่ถูกไต่สวนในเรื่องนี้ให้การเมื่อเดือนมีนาคมว่า มีคนเกี่ยวข้องอย่างน้อย 37 คน หนึ่งในนั้นมีนายโนวันโตรวมอยู่ด้วย
นายโนวันโตเคยถูกผู้บริหารฟรีพอร์ตอินโดนีเซียในเครือบริษัทเหมืองแร่ใหญ่ของสหรัฐกล่าวหาว่า พยายามกรรโชกเรียกเอาหุ้นมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 60,580 ล้านบาท) ทำให้คณะกรรมการจริยธรรมในสภาผู้แทนราษฎรเปิดการสอบสวนเมื่อปลายปี 2558 เขาปฏิเสธและขอลาออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นการชั่วคราว จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งกลับในอีกหนึ่งปีถัดมาเมื่อผลสอบยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์.-สำนักข่าวไทย