เนเธอร์แลนด์ 17 พ.ย. – บริษัทวิจัยเนเธอร์แลนด์ กำลังค้นคว้าและวิจัยครั้งสำคัญ เกี่ยวกับการสร้างตัวอ่อนสิ่งมีชีวิตนอกโลก ที่อาจนำไปสู่การให้กำเนิดมนุษย์คนแรกในอวกาศ
ที่เห็นอยู่นี้ คือ อุปกรณ์ที่บริษัท สเปซบอร์น ยูไนเต็ด บริษัทวิจัยด้านอวกาศสัญชาติเนเธอร์แลนด์ประดิษฐ์คิดค้นขึ้น เพื่อมุ่งหวังศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปฏิสนธิจนเกิดเป็นตัวอ่อนของสิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือบนอวกาศ
โดยบริษัทจะส่งกระสวยอวกาศขึ้นสู่วงโคจร ภายในบรรจุแผ่นดิสก์ที่ผสมเซลล์เอาไว้ด้วยกันจนเกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน จากนั้นนำตัวอ่อนที่ได้เข้าสู่กระบวนการแช่เยือกแข็งด้วยสารไครโอเจนเพื่อชะลอการเจริญเติบโตของตัวอ่อน แล้วนำเอาตัวอ่อนที่มีการปฏิสนธิแล้วกลับมาเพื่อให้ถือกำเนิดบนโลก ถือเป็นบริษัทเดียวในโลกที่ทำการทดลองลักษณะนี้
ซีอีโอของสเปซบอร์น ยูไนเต็ด บอกว่าการทดลองนี้สำคัญต่อการดำรงอยู่ของมนุษยชาติในอนาคต เนื่องจากมนุษย์อาจจะต้องอพยพโยกย้ายไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอื่นนอกโลกในอนาคตข้างหน้า จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีทดลองและเรียนรู้เรื่องของการเพิ่มจำนวนประชากรมนุษย์จากนอกโลกหรือบนอวกาศ ซึ่งเป็นความท้าทายและละเอียดอ่อนอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องความถูกต้องทางศีลธรรมมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะการปฏิสนธิจนเกิดตัวอ่อนเกิดขึ้นนอกโลกบนอวกาศที่มีสภาพแวดล้อมสุดขั้วและอันตราย โดยเฉพาะจากรังสีต่าง ๆ ที่มีความเข้นข้นรุนแรงกว่าบนโลกหลายเท่า อีกทั้งแรงโน้มถ่วงนอกโลกยังมากมายมหาศาล ซึ่งอาจเป็นอันตรายหรือส่งผลรุนแรงต่อตัวอ่อนที่ทำการทดลอง
ซีอีโอของสเปซบอร์น ยูไนเต็ด บอกว่า การทดลองขั้นแรกที่จะเริ่มจากการใช้เซลล์ของหนูมีแผนจะเริ่มได้ในช่วงปลายปีหน้า จากนั้น ยังต้องใช้เวลาอีกราว 5-6 ปี กว่าจะสามารถเริ่มการทดลองกระบวนการปฏิสนธิจนเกิดตัวอ่อนของมนุษย์บนอวกาศ เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนอีกหลายขั้นตอน โดยเฉพาะการนำตัวอ่อนที่ผ่านการปฏิสนธิแล้วบนอวกาศกลับมาถือกำเนิดยังโลก เพราะยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการอนุญาตให้นำตัวอ่อนดังกล่าว กลับมาใส่ในมดลูกของมนุษย์เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์และคลอดเป็นทารกออกมาได้หรือไม่ แต่เขาเชื่อว่า ขั้นตอนเหล่านี้ถือว่าสำคัญและควรต้องเดินหน้าทำให้สำเร็จ หากมนุษย์ยังมีแผนที่จะไปใช้ชีวิตยังดาวอื่นบนอวกาศอันไกลโพ้น .-สำนักข่าวไทย