ความพยายามช่วยคนงานติดในอุโมงค์อินเดียเข้าวันที่ 3

เดห์ราดุน 14 พ.ย. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยมากกว่า 100 คน ทางภาคเหนือของอินเดียพยายามเป็นวันที่ 3 ในการช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ใต้ดินหลังจากอุโมงค์ถนนที่กำลังก่อสร้างเกิดพังถล่มลงมา


อุปกรณ์ขุดดินเริ่มทำการขุดซากปรักหักพังและดินจากในอุโมงค์ตั้งแต่เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในรัฐอุตตระขัณฑ์ เพื่อหวังเปิดทางสำหรับคนงาน 40 คนทิ่ติดอยู่ด้านใน ซึ่งทุกคนยังมีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า ความก้าวหน้าในเบื้องต้นครั้งสำคัญคือการทำให้สามารถติดต่อกับคนงานได้และการจัดส่งอาหารและออกซิเจนเข้าไปภายในอุโมงค์ อะไรที่จำเป็นเพื่อความอยู่รอดของคนงาน ก็ได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว เขากล่าวด้วยว่า มีการสูบออกซิเจนเข้าไปภายในอุโมงค์และอาหารที่เป็นชิ้นเล็ก ๆ เช่นผลไม้แห่ง ก็จัดหาและส่งเข้าไปให้คนงานในอุโมงค์

อุโมงค์แห่งนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีความยาว 4.5 กิโลเมตรซึ่งจะเชื่อมต่อระหว่างเมืองซิลค์ยารา (Silkyara) กับดันดัลกอน (Dandalgaon) ในรัฐอุตตราขัณฑ์ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการถนนของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ที่มีเป้าหมายในการปรับปรุงสภาพการเดินทางระหว่างเมืองสองแห่งที่เป็นที่ตั้งของวิหารอุตตระคาชี (Uttarkashi) กับวิหารยัมโนตรี (Yamnotri) ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูที่สำคัญของประเทศสองแห่งเข้าไว้ด้วยกัน.-สำน้กข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]