ย่างกุ้ง 4 พ.ย. – สื่อมวลชนท้องถิ่นของเมียนมารายงานว่า กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในเมียนมาสามารถยึดฐานที่มั่นทางทหารได้เพิ่มขึ้นในวันนี้ ในขณะที่รุกคืบในการต่อสู้กับกองทัพในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ
สหประชาชาติ กล่าวว่า การสู้รบเกิดขึ้นทั่วพื้นที่รัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมา ใกล้กับชายแดนจีน ในสัปดาห์นี้ ทำให้ประชาชนมากกว่า 23,000 คน ต้องอพหนีออกจากบ้านเรือนไปยังสถานที่ปลอดภัย
กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta’ang National Liberation Army) หรือ ทีเอ็นแอลเอ กองทัพอาระกัน (Arakan Army) หรือ เอเอ และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (Myanmar National Democratic Alliance Army) หรือ เอ็มเอ็นดีเอเอ ซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ (The Brotherhood Alliance) สามารถยึดฐานที่มั่นของกองทัพไหลายสิบแห่ง เมือง 4 แห่ง และปิดกั้นเส้นทางการค้ากับจีนที่สำคัญหลายเส้นทาง
สื่อท้องถิ่นของเมียนมา รายงานว่า ในวันนี้ทีเอ็นแอลเอยึดฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนกองทัพได้ 2 แห่ง ใกล้กับเมืองล่าเสี้ยว เมืองใหญ่ที่สุดในรัฐฉาน และเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการภาคเหนือของกองทัพเมียนมา ในขณะที่เอ็มเอ็นดีเอเอสามารถยึดฐานที่มั่นทางทหารได้ 3 แห่ง ทางตะวันออกของรัฐฉาน
ขณะที่ทางรัฐบาลทหารเมียนมายังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการปะทะกันในวันนี้ แต่เมื่อวันพฤหัสบดี โฆษกของกองทัพเมียนมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยระบุว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่ว่าสามารถยึดเมืองได้หลายเมืองในรัฐฉาน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทหารเมียนมาระบุวันนี้ว่า กองทัพเอกราชกะชีน (Kachin Independence Army) หรือ เคไอเอ กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่งที่มีฐานที่มั่นในรัฐกะฉิ่นที่อยู่ติดกับรัฐฉาน ได้เข้าร่วมในการโจมตีกองทัพ และจะต้องถูกตอบโต้ต่อไป ในขณะที่สื่อท้องถิ่นกล่าวว่า กองทัพเมียนมาระดมยิงกระสุนเข้าใส่เมืองไลซา ติดชายแดนจีน ซึ่งเป็นกองบัญชาการของเคไอเอ.-สำนักข่าวไทย